ร้อนกันไปทั่ว สำหรับอากาศช่วงนี้ แต่ที่ร้อนกว่าคือ เจ้าหน้าที่เขตกรุงเทพมหานครหลัง ตำรวจ บก.ปปป. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รับทำคดี นายประมวล แสงแก้วศรี หัวหน้าฝ่ายประเมินรายได้เขตราชเทวี รีดเงินค่าประเมินภาษีโรงเรียนผู้เสียหาย 3.2 ล้านบาท ถูกจับคามือ!การขยายผลมันกว่า เพราะดันตรวจค้นเจอสมุดบันทึกบัญชีส่วยอีกกว่า 100 ราย ระบุรายละเอียดไว้หมดว่า เก็บจากใครวันไหน เท่าไหร่ แถมแบ่งให้ใครบ้าง?ตัวเลขกลมๆคือ นายประมวลจะรับ 60 เปอร์เซ็นต์ และให้ลูกน้องเอาไปแบ่งกันอีก 40 เปอร์เซ็นต์ คิดง่ายๆถ้าเรียกรับมา 1 ล้านบาท ลูกน้องจะรับไป 4 แสนบาทพุงปลิ้นกันเป็นแถว?ส่วน 60 เปอร์เซ็นต์หัวเบี้ยจะเอาไปแบ่งให้ใคร ยังไม่รู้ อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน!แต่ปัญหาการขยายผลมีอยู่ว่า การไปกล่อมให้ผู้เสียหายในบันทึกที่ยอมจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อให้เสียภาษีน้อยลง หรือไม่เสียภาษีเลย มันยาก?เพราะมุมนึงอาจถือว่า เป็นผู้เสียหาย แต่ถูกมุมนึงเป็นผู้จ่ายเงินใต้โต๊ะ!ประเด็นนี้แหละจะทำให้ไม่กล้าเข้ามาให้ข้อมูล เพราะกลัวจะซวยไปด้วย?นอกจากนี้ ในบันทึกลับที่ว่า ผู้ต้องหาไม่ได้ก่อเหตุแค่ตอนอยู่เขตราชเทวีเท่านั้น แต่ก่อนหน้านั้นตอนทำงานอยู่เขตพญาไทก็มีอยู่ในบันทึกด้วย ว่ากันว่ากำลังตรวจสอบไปถึงปี 2560เรื่องนี้ความจริงไม่ใช่เรื่องใหม่ คนกรุงเทพฯผจญกับมันมานานแล้ว?ดาวเด่นตามเขตหนีไม่พ้น เทศกิจ โยธา และฝ่ายรายได้ เจอกันมาหมด ถ้าไม่มีความผิดก็เรียกรับค่าอำนวยความสะดวกกันดื้อๆ แบบไม่กระมิดกระเมี้ยน!ต้องร่วมกันรื้อให้หมด ระบบส่วย ระบบเรียกรับเงินแบบหน้าด้านๆไม่งั้นสังคมก็อยู่กันแบบนี้ ถึงโลกจะเปลี่ยน แต่คอร์รัปชันในวงราชการยังอยู่?สหบาท