เป็นคดีโด่งดังมาตั้งแต่ปลายปี 2565 นายดาบตำรวจ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ปากเกร็ด ทำหน้าที่ตรวจเก็บและดูแลรักษาอาวุธปืนหลวง ในคลังเก็บอาวุธปืนหลวงพื้นที่ สภ.ปากเกร็ดทำการลักเอาปืนออกไปจำนำและจำหน่ายคนนอกกว่า 160 กระบอกพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงมาคุมคดีทำสำนวน จนศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 มี.ค.จำคุก 256 ปี 168 เดือนแต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่หยุดเท่านี้ให้ทำการสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำผิดอื่นๆอีก มี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 เข้าร่วมดำเนินการขยายผลติดตามอาวุธปืนหลวงที่ถูกลักออกไปจำหน่ายกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องสั่งให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามอาวุธปืนหลวงหายไป 160 กระบอก คืนมาได้ 64 กระบอก เหลืออีก 96 กระบอก อยู่ระหว่างติดตามค้นหา ขยายผลดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการควบคุมดูแลและตรวจสอบอาวุธปืนหลวง เข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ 8 นายอดีต ผกก.สภ.ปากเกร็ด ปี 2560-2562 อดีต ผกก.สภ.ปากเกร็ด ปี 2562-2565 อดีต รอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด ปี 2560-2562, อดีตรอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด ปี 2562-2564 อดีตรอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด ปี 2564-2565 อดีต สว.อก.สภ.ปากเกร็ด ปี 2557-2563 อดีต สว.อก.สภ.ปากเกร็ด ปี 2563-2564อดีต สว.อก.สภ.ปากเกร็ด ปี 2564-2565แจ้งข้อหา “เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด” สรุปสำนวนสอบสวนเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการต่อไปขยายผลดำเนินคดีกลุ่มผู้รับซื้อและรับจำนำอาวุธปืนของหลวง 23 ราย จับกุมได้ทั้งหมดเป็นการทำคดีที่สมบูรณ์แบบ ขยายผลจากตัว นายดาบตำรวจ นำไปสู่การดำเนินการผู้ที่มีส่วนกระทำผิดและร่วมรับผิดชอบ ทั้งผู้บังคับบัญชา โทษฐานที่ปล่อยปละละเลย และผู้รับซื้อรับจำนำอาวุธปืนของหลวงทำให้ประชาชนเห็นว่า ตำรวจไม่มีการช่วยเหลือกัน ตำรวจทำผิดถูกลงโทษรูปแบบการทำคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงรายละเอียดคดีปืนหลวงหาย ส่งสัญญาณเตือนไปยังตำรวจทั่วประเทศ ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบ ควบคุมอาวุธปืนของทางราชการไม่ให้เกิดการทำผิดขึ้นอีก.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th