โดยธรรมชาติร่างกายสามารถจัดการตนเองได้ในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ที่หลายโรคอาจไม่จำเป็นต้องกินยา แต่เพียงแค่ปรับพฤติกรรมบางอย่างก็สามารถหายได้เอง โดยเฉพาะพฤติกรรมการ “นอนหลับ” ที่งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันตรงกันว่า สามารถช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตนเองให้มีสุขภาพที่ดีได้ทีมนักวิจัยทางการแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่า การนอนหลับอย่างมีคุณภาพสำคัญยิ่งกว่าการนอนแค่ให้เพียงพอตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนด และคนที่นอนหลับง่าย หลับติดต่อกันได้นาน จะรู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นขึ้นมา และมีแนวโน้มว่าจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้อื่น รวมถึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและโรคมะเร็งน้อยกว่าคนที่นอนหลับไม่สนิทหรือนอนอย่างไม่มีคุณภาพด้วยการนำเสนอผลวิจัยในการประชุมระดับโลกด้าน หทัยวิทยา (World Congress of Cardiology) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย นายแพทย์แฟรงก์ เฉียน หนึ่งในสมาชิกทีมวิจัย บอกว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพซึ่งสำรวจจากประชากรชาวอเมริกัน 172,321 คน ในวัยราว 50 ปีโดยเฉลี่ย โดยติดตามเก็บข้อมูลเป็นเวลา 4 ปี 4 เดือน ระหว่างปี 2013-2018 พบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างคุณภาพของการนอนหลับกับอัตราความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยสาเหตุต่างๆ โดยการตายถึง 8% การสำรวจครั้งนี้มาจากกลุ่มตัวอย่างของผู้ที่มีแบบแผนการนอนหลับที่ไม่ดี และกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการประเมินว่ามีพฤติกรรมการนอนหลับที่ดี โดยประเมินในเรื่องการนอนอย่างมีคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่นอนหลับดีมีคุณภาพ มีอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุต่ำกว่ากลุ่มที่นอนหลับไม่มีคุณภาพมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือดในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นักจิตวิทยาชาวเยอรมันได้จำแนกพฤติกรรมการหลับและตื่นที่เป็นวงจรของมนุษย์ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ “มนุษย์ค้างคาว” ที่ชอบอดนอนตอนกลางคืนแต่งีบหลับช่วงกลางวัน กับ “มนุษย์ไก่โห่” ที่ง่วงแต่หัวค่ำแต่จะสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเมื่อตื่นแต่เช้าตรู่ พบว่าการใช้ชีวิตให้สอด คล้องกับพฤติกรรมตามธรรมชาติของแต่ละคนมีผลดีต่อสุขภาพและการทำงานที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง แต่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบว่าผู้คนจำนวนมากมี “ครอนอ ไทป์” (Chronotype) หรือรูปแบบของนาฬิกาชีวภาพที่กำหนดวงจรการหลับและตื่นไม่สอดคล้องกับ 2 แบบแผนหลักที่กำหนดไว้แต่เดิม งานวิจัยจากทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัย RUDN ของรัสเซีย ตีพิมพ์ผลการศึกษาในวารสาร “บุคลิกภาพและความแตกต่างระหว่างบุคคล” (Personality and Individual Differences) โดยระบุว่า การสำรวจข้อมูลเรื่องความรู้สึกสดชื่นตื่นตัวที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงในช่วงเวลาต่างๆ ระหว่างวัน จากนักศึกษาทั้งหมด 2,300 คนผลปรากฏว่ามีนักศึกษาถึง 95% ที่มีความเปลี่ยน แปลงของระดับพลังงานในร่างกายระหว่างวัน ตรงกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งในครอนอไทป์ทั้ง 6 แบบ ซึ่งประกอบด้วยวงจรการหลับและตื่น ซึ่งก็คือวงจรการเพิ่มและลดของระดับพลังงานในร่างกายที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ ตื่นตัวตอนเช้า, ตื่นตัวตอนกลางคืน, ตื่นตัวสูงตลอดวันตลอดคืน, ตื่นตัวตอนเช้าและค่ำแต่งีบหลับกลางวัน, ตื่นตัวสูงเฉพาะช่วงกลางวัน และตื่นตัวปานกลางตลอดวันตลอดคืน พบว่ามีเพียง 5% ที่ไม่สามารถจัดให้เข้ากับครอนอไทป์ประเภทใดได้เลย Dr.Marishka Brown ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับของ NIH กล่าวว่า การนอนหลับที่ดีมีมากกว่าการใช้เวลาหลายชั่วโมงบนเตียง ทั้งนี้ การนอนหลับอย่างมีสุขภาพประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 3 ประการ คือ จำนวนการนอนหลับที่คุณได้รับ คุณภาพการนอน และตารางการนอนหลับที่สม่ำเสมอ ทั้งนี้ การนอนหลับที่ดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง อารมณ์ และสุขภาพ ขณะที่การนอนหลับที่มีคุณภาพไม่เพียงพอเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคและความผิดปกติต่างๆ ตั้งแต่โรคหัวใจและหลอดเลือดไปจนถึงโรคอ้วนและโรคสมองเสื่อม Maiken Nedergaard ผู้ศึกษาเรื่องการนอนหลับที่มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ บอกว่า ผู้คนมักคิดว่าการนอนหลับเป็นเพียง “เวลาพักผ่อน” แต่นั่นเป็นสิ่งที่ผิด เพราะขณะที่คุณนอนหลับสมองของคุณกำลังทำงาน การนอนหลับช่วยเตรียมสมองของคุณให้พร้อมในการเรียนรู้ จดจำ และสร้างสรรค์ เพราะสมองมีระบบระบายน้ำที่ช่วยขจัดสารพิษในระหว่างการนอนหลับ เมื่อเรานอนหลับสมองจะเปลี่ยนการทำงานโดยสิ้นเชิง สมองทำงานเกือบจะเหมือนไต เพราะทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากระบบ ขณะที่ ดร.เคนเน็ธ ไรท์ จูเนียร์ นักวิจัยการนอนหลับแห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโด กล่าวว่า ทุกอย่างตั้งแต่หลอดเลือดไปจนถึงระบบภูมิคุ้มกันล้วนใช้การนอนหลับเป็นเวลาในการซ่อมแซมนี่คือมหัศจรรย์การนอนที่มนุษย์ส่วนใหญ่มองข้าม และการก้าวเดินของชีวิตสมัยใหม่ก็แทบจะทำให้ไม่มีเวลาหยุดและพักผ่อน บางทีอาจถึงเวลาต้องตั้งคำถามว่า ถ้าปรับตารางชีวิตสมดุลครอนอไทป์ให้ดี ชีวิตผู้คนอาจรอดพ้นจากการใช้ยาและการรักษาในราคาแพงก็เป็นได้.