เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว พร้อมด้วยพ่อและแม่ ด.ช.กุนพิธาน์ ทองพูล หรือน้องโชกุน อายุ 1 ปี 11 เดือน ที่เสียชีวิตในสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนแห่งหนึ่งย่านหนองจอก โดยอ้างว่าผ้าอุดจมูกขาดอากาศหายใจ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ร้องขอความเป็นธรรมตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าว โดยมี น.ส.สุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ รองอธิบดี ดย.รับหนังสือ โดยนายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า มูลนิธิเด็กฯ ได้หารือกับครอบครัวผู้เสียหาย และยื่นหนังสือถึง ดย.เรียกร้องให้ตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าวมีใบอนุญาตดำเนินการถูกต้องหรือไม่ รวมถึงเพิ่มมาตรการลงโทษ และเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดทำความจริงให้ปรากฏ ทั้งเรียกร้องให้ ดย.มี ข้อกำหนดให้สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้ตลอด 24 ชม.โดยความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ และแก้ไขข้อกฎหมายเรื่องจำนวนเด็กในความดูแลน.ส.สุนีย์กล่าวชี้แจงว่า ดย.ได้มีหนังสือแจ้งสั่งปิดสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าวแล้ว และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบสถานรับเลี้ยงเด็กได้รับใบอนุญาตในปี 2560 และมีการตรวจสอบการต่อใบอนุญาตเป็นระยะ ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดไม่ได้มีข้อกำหนด แต่แนะนำเป็นทางเลือกโดยความยินยอมจากผู้ปกครอง เพราะอาจละเมิดสิทธิเด็ก แต่กำหนดต้องมีพี่เลี้ยงดูแลเด็กตลอดเวลา ทั้งนี้ ดย.อยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก เพื่อยกร่าง ปรับปรุงกฎกระทรวง ที่อาจจะครอบคลุมไปถึงการพิจารณาจำนวนเด็กที่เข้ารับบริการในสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน จากเดิมไม่เกิน 6 คน ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตจัดตั้ง เพื่อให้เกิดความรอบคอบรัดกุมยิ่งขึ้นด้านแม่น้องโชกุนให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า อยากร้องขอความเป็นธรรมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดดำเนินการให้ชัดเจนโดยเร็ว และอยากให้ถอดบทเรียนเหตุการณ์ครั้งนี้และกำหนดมาตรการและบทลงโทษที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเช่นตนอีก.