ตำรวจพา “เฮียโต” เสี่ยใหญ่เจ้าของร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าเมืองแปดริ้วที่ถูกลูกชายกับลูกสะใภ้วางยาฮุบสมบัติกว่า 65 ล้านบาท ไปค้นโรงน้ำดื่มของพ่อลูกสะใภ้ที่ใช้เป็นที่กักขัง ก่อนพาชี้จุดต่างๆละเอียดยิบ ยันตัวเองไม่ได้ป่วยจิต แต่แกล้งบ้า ย้ำจดจำได้ทุกซอกทุกมุม ก่อนพาดูห้องที่ถูกแยกขังกับภรรยา แคบแค่ 2 คูณ 2 เมตร มีแค่ช่องส่งอาหาร ด้านผู้การระบุผู้เสียหายชี้จุดตรงคำให้การ เข้าข่ายผิดหน่วงเหนี่ยวกักขัง เตรียมเชิญลูกชาย สะใภ้ และพ่อตาแม่ยายมาสอบ หากไม่มาจะออกหมายเรียกและหมายจับทันที ขณะที่ลูกสะใภ้เผ่นไปสิงคโปร์แล้วกลายเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจยิ่งกว่าละครน้ำเน่า กรณีนายสมศักดิ์ รุ่งรักษาธรรม หรือเฮียโต อายุ 67 ปี นักธุรกิจรับเหมาเดินสายไฟและเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ใน อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เข้าแจ้งความตำรวจถูกนายธวัชชัย รุ่งรักษาธรรม อายุ 34 ปี ลูกชายคนเดียว และ น.ส.เจนนิส สื่อสวัสดิ์วาณิชย์ อายุ 34 ปี ลูกสะใภ้วางแผนวางยาสลบหมูมานานกว่า 2 ปี จับขังในห้อง ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันร่วม 2 ปี และจัดฉากร้องต่อศาลให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถก่อนตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกยักย้ายทรัพย์สินผู้เป็นพ่อกว่า 65 ล้านบาท กระทั่งพ่อหลบหนีออกมาได้ แต่กลับเจอข่าวร้ายเมียที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทั้งชีวิตผูกคอตายไปก่อนแล้ว สงสัยอาจถูกฆาตกรรมอำพราง พร้อมเดินหน้าเอาผิดลูกชายและสะใภ้ถึงที่สุดต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.พ.ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา เรียก พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ประชุมติดตามความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยมีชุดสืบสวน ภ.จ.ฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมหารือวางแนวทางการทำงานเพื่อพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว เนื่องจากคดีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เกิดความขัดแย้งในครอบครัวและสังคมให้ความสนใจพล.ต.ต.นเรวิช เปิดเผยหลังประชุมว่า วันนี้พนักงานสอบสวนจะยื่นขอหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทราตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ประกอบด้วยบ้านพ่อแม่ของลูกสะใภ้ซึ่งเป็นสถานที่ขังทรมานนายสมศักดิ์และภรรยา จุดที่สองบ้านของนายธวัชชัย ลูกชายนายสมศักดิ์ อยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จากรายงานพบว่าบ้านหลังดังกล่าวปิดเงียบ ไม่มีคนอยู่บ้าน เบื้องต้นทราบว่าลูกสะใภ้ของนายสมศักดิ์ไปเที่ยวต่างประเทศก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนลูกชายตอนนี้ยัง ไม่ทราบว่าไปไหน และจุดสุดท้ายคือบ้านนายสมศักดิ์ ผู้เสียหายใน ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์“คดีนี้ตำรวจต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย เพราะเรื่องผ่านมานานพอสมควร นอกจากนี้จะต้องตรวจเส้นทางการเงินของลูกชายว่ามีการโอนยักย้ายถ่ายเทออกไปไหนบ้าง หลังจากตรวจค้นบ้านในวันนี้แล้ว ตำรวจจะพานายสมศักดิ์ ผู้เสียหายไปตรวจสารตกค้างในร่างกายที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำหลักฐานมาประกอบสำนวนคดี” ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรากล่าวช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสมศักดิ์ หรือเฮียโต ที่อ้างว่าถูกลูกชายและลูกสะใภ้วางยาเพื่อฮุบทรัพย์สมบัติได้เดินทางมาที่โรงพักพร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตัวเองไม่ได้มีอาการป่วยจิตเวช แต่แกล้งบ้า เพราะต้องการให้ลูกชายกับลูกสะใภ้ตายใจในสิ่งที่ทั้งคู่กระทำกับพ่อแม่ แต่ความจริงจดจำทุกอย่างได้ว่าทั้งสองคนพาไปไว้ที่ไหนบ้าง กักขังทรมานอย่างไรจำได้หมดทุกอย่าง และพร้อมให้รายละเอียดเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับลูกชายและลูกสะใภ้ ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวนำภาพเหตุการณ์วันเกิดเหตุที่หน่วยกู้ภัยเก็บศพนางนิสา หรือติ๋ม รุ่งรักษาธรรม อายุ 64 ปี ภรรยานายสมศักดิ์ที่ผูกคอเสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา มาให้นายสมศักดิ์ดู ปรากฏว่าหลังเห็นภาพนายสมศักดิ์ ยืนยันว่าเป็นบ้านหลังเดียวกันกับที่ตนและภรรยาถูกกักขังไว้ ซึ่งเป็นบ้านของพ่อแม่ลูกสะใภ้ ต่อมาตนกับภรรยาถูกจับแยกจากกัน โดยในวันเกิดเหตุได้ยินเสียงภรรยาร้องเรียกให้ช่วย 3 ครั้ง ก่อนจะเงียบหายไป ตนมารู้ภายหลังว่าเมียเสียชีวิตตอนลูกสะใภ้ทะเลาะกับพ่อแม่ของตัวเองและพาตนออกมาอยู่ด้านนอก กระทั่งทราบจากหลานที่เป็นลูกของลูกชายและลูกสะใภ้ว่าย่าผูกคอตายที่บ้านหลังนี้ ตอนนั้นไม่เชื่อว่าเมียจะฆ่าตัวตายจริง แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์สงสัยเอาไว้เพราะยังหนีออกมาไม่ได้ โดยยืนยันว่านางนิสา ภรรยาไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายแน่นอน น่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพรางมากกว่า เพราะตนกับภรรยาเคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่มีใครฆ่าตัวตายหนีความทุกข์นี้ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ร.ต.อ.วรทัศน์ เรืองฤทธิ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์นำหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 10/2566 ลงวันที่ 13 ก.พ.2566 เข้าตรวจค้นเก็บหลักฐานและความเชื่อมโยงของคดีที่โรงผลิตน้ำสื่อสวัสดิ์ เลขที่ 40/8 หมู่ 1 ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา ของนายประสงค์ สื่อสวัสดิ์วาณิชย์ พ่อของ น.ส.เจนนิส สื่อสวัสดิ์วาณิชย์ ลูกสะใภ้นายสมศักดิ์ หรือเฮียโต โดยมีผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกกักขังอยู่สถานที่แห่งนี้พาไปชี้จุดต่างๆเมื่อไปถึงพบนางธร ไม่ทราบนามสกุลอ้างว่าเป็นญาตินายประสงค์บอกว่าเจ้าของไม่อยู่ ตำรวจแสดงหมายศาลกระจายกำลังตรวจค้นตามจุดต่างๆ มีนายสมศักดิ์พาชี้จุดแรกเป็นรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูเนอร์ สีขาว ทะเบียน 6 กผ 1595 กรุงเทพมหานคร เป็นรถของเฮียโตที่ใช้ก่อนหน้านี้ ตอนหลังถูกโอนไปเป็นชื่อของนายธวัชชัย รุ่งรักษาธรรม ลูกชายจากนั้นเฮียโตพาไปดูบริเวณหลังบ้าน พบห้องสร้างใหม่อีก 2 ห้อง ตามคำให้การผู้เสียหายบอกว่าหนึ่งในนั้นเป็นห้องที่เฮียโตถูกแยกกักขังกับภรรยา บริเวณหลังบ้านเป็นลานโล่งกว้าง อยู่ห่างจากเพื่อน บ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่ได้ยินหรือรู้ความเคลื่อนไหวภายในบ้านจากนั้นนายสมศักดิ์พาเข้าไปในอาคารและห้องนอนที่ใช้กักขังตนและภรรยามานานกว่า 2 ปี ยืนยันทุกอย่างยังจำได้ดี ทั้งผนังสีฟ้า นาฬิกาแขวน และฝาเพดานที่นายสมศักดิ์ปีนขึ้นไปเจาะรู เพื่อระบายอากาศ เนื่องจากห้องร้อน ไม่มีลมถ่ายเท แต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนลูกปิดประตูด้านหน้าห้องใหม่และนำสายไฟจากร้านของนายสมศักดิ์มากองเก็บไว้ในห้อง เสร็จแล้วพาไปดูอาคารปูนสีขาวแยกออกจากตัวบ้าน จุดนี้เฮียโตบอกว่าเป็นจุดที่ตัวเองถูกแยกกักขังกับเมีย ภายในคับแคบมีเนื้อที่แค่ 2X2 เมตร มีโถส้วมอยู่ด้านใน ตะแกรงเหล็กระบายอากาศถูกดัดแปลงตัดเป็นรูขนาดใหญ่ เพื่อไว้ใช้ส่งอาหารให้นายสมศักดิ์ เฮียโตยังชี้ให้ดูตะแกรงเหล็กที่ตัวเองนำน้ำเกลือมาหยดเพื่อต้องการให้เป็นสนิมผุกร่อน ใช้เป็นช่องทางหลบหนี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ถอดเหล็กออกนำไปตรวจหาคราบรอยนิ้วมือของเฮียโตว่าอยู่ห้องนี้จริงหรือไม่ นอกจากนี้ ชุดสืบสวนกระจายกำลังโดยรอบ เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมนำมาประกอบสำนวนคดีด้าน พล.ต.ต.นเรวิชเปิดเผยภายหลังตรวจค้นว่า จากการตรวจค้นวันนี้เชื่อว่านายสมศักดิ์อยู่ที่บ้านหลังนี้จริงและชี้จุดต่างๆตรงกับข้อมูลที่ให้การก่อนหน้านี้ เข้าข่ายความผิดข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังตามที่พยานระบุ ส่วนประเด็นเรื่องการฆาตกรรมนางนิสา ภรรยาเฮียโต ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากต้องรอพยานหลักฐานหลายๆส่วน ทั้งนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม พยานบุคคล เส้นทางทางการเงิน และต้องเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนในฐานะพยานก่อน หากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดหรือสามารถระบุตัวตนได้จะขยายผลไปถึงเหตุฆาตกรรมตามที่นายสมศักดิ์สงสัย เบื้องต้นให้ พฐ.เก็บหลักฐานทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีไปตรวจสอบแล้ว ขั้นตอนจากนี้จะเชิญตัวลูกชาย ลูกสะใภ้ และพ่อแม่ของลูกสะใภ้มาสอบสวน หากไม่มาแสดงตนก็จะออกหมายเรียก สุดท้ายหากไม่มาอีกคงต้องขอศาลอนุมัติหมายจับต่อไปตามขั้นตอน ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด สำหรับบ้านลูกชายและลูกสะใภ้พบว่าตอนนี้ไม่มีคนอยู่ รวมถึงบ้านเฮียโต ตำรวจจะเข้าตรวจค้นในภายหลัง เพื่อหาหลักฐานประกอบคดีต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมศักดิ์ หรือเฮียโต เป็นนักธุรกิจใหญ่ใน จ.ฉะเชิงเทรา คนหนึ่งเป็นเจ้าของร้านอมรภัณฑ์ค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า ปากทางเข้าตลาดคลองสวนร้อยปี ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาเดินสายไฟในโรงงาน และมีอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่ดินตึกแถวตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อนายสมศักดิ์สะสมไว้เป็นจำนวนมาก ส่วนนายธวัชชัย รุ่งรักษาธรรม ลูกชาย สมรสกับ น.ส.เจนนิส สื่อสวัสดิ์วาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2554 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 2 คน ส่วนชนวนความขัดแย้งแตกหักระหว่างเฮียโตกับลูกสะใภ้เกิดจากปัญหาเรื่องเงินในร้านอมรภัณฑ์ค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าหายไป นายสมศักดิ์ได้แอบติดกล้องวงจรปิด พบว่าคนที่ขโมยเงินไปคือลูกสะใภ้ตัวเอง จึงว่ากล่าวตักเตือน ทำให้ลูกสะใภ้ไม่พอใจกลายเป็นปมขัดแย้งกันเรื่อยมา กระทั่งบานปลายถึงขั้นวางแผนจับกักขัง วางยาฮุบทรัพย์สมบัติ โดยมีลูกชายเฮียโตร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า น.ส.เจนนิสเดินทางไปประเทศสิงคโปร์หลายวันแล้ว