ตำรวจ ปปป.มั่นใจหลักฐานชัดมัดแน่น มีคลิปเสียงเจรจาต่อรองราคาวิ่งเต้นอธิบดีกรมอุทยานฯ แฉลูกน้องโดนร้านค้าฟ้องติดหนี้ 4 แสน เหตุเอาเงินมาหมุนวิ่งเต้นรักษาตำแหน่ง “วราวุธ” สั่งสอบ 16 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ฯ กรมอุทยานฯ พร้อมประสาน ปปป.ขอดูเอกสารหลักฐานและข้อร้องเรียน อ้างนำเปรียบเทียบหนังสือแต่งตั้งโยกย้าย เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย “พิสิฐ ลี้อาธรรม” เสนอแก้ไขกฎหมายเอาอย่างจีน ประหารชีวิตข้าราชการขี้ฉ้อกรณีตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.และ ศอตช.บุกจับนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คาห้องทำงาน โดยกล่าวหาทุจริตเรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด ตามที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) นำเรื่องเข้ามาแจ้งความ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า คดีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นคดีสำคัญ อยู่ในความสนใจของสังคม สั่งการตั้งเป็นคณะทำงานสืบสวนสอบสวนขึ้นเพื่อทำข้อเท็จจริงให้เกิดความกระจ่างชัด ละเอียดรอบคอบ เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ส่วนแนวทางหลังจากนี้อยู่ระหว่างเร่งทำหนังสือออกหมายเรียกกลุ่มเจ้าหน้าที่ หัวหน้าหน่วยงานต่างๆในสังกัดกรมอุทยานฯ เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน จะส่งหมายเรียกให้แล้วเสร็จทันก่อนปีใหม่ เพื่อที่พยานเหล่านี้จะได้ทยอยเข้ามาให้ปากคำช่วงหลังปีใหม่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กล่าวถึงกรณีที่นายรัชฎาให้การอ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นถูกกลั่นแกล้งเหตุเพราะมีปัญหาขัดแย้งกันนั้น ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกับนายรัชฎา เพราะหากมีปัญหาขัดแย้งกันจริง นายรัชฎาจะยอมให้เข้าไปในห้องหรือกล้ารับซองเงินจากมือตนหรือไม่ อีกทั้งที่ผ่านมาเคยได้รับฟังปัญหาจากเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวหลายราย บางรายต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อหาเงินมาส่งให้ผู้ใหญ่ทันตามกำหนดมีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ค่อนข้างมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าจะสามารถเอาผิดได้ โดยเฉพาะหลักฐานคลิปเสียงขณะเจรจาส่งมอบซองเงินรายเดือน สอดคล้องกับซองเงินของกลางที่ตรวจยึดได้ในลิ้นชักในห้องทำงานนายรัชฎาและบทสนทนาการต่อรองเงินค่าวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง อีกทั้งในคลิปเสียงยังเผยถึงรายละเอียดบทสนทนาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในหน่วยงานจากผลกระทบเรื่องนี้ หลังมีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานรายหนึ่งถูกร้านค้าฟ้องร้องดำเนินคดีเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เหตุเพราะติดค้างเงินค่าน้ำมันและวัสดุของใช้ต่างๆที่นำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเงินรวม 4 แสนบาท และไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ เนื่องจากต้องนำเงินที่เบิกเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้รวบรวมไปส่งให้กับนายรัชฎาคลิปเสียงดังกล่าวยังบันทึกเสียงช่วงขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมขออนุญาตตรวจค้นลิ้นชักโต๊ะทำงานของนายรัชฎา ช่วงแรกเจ้าตัวไม่ยินยอม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่อธิบายเหตุผลตามหลักข้อกฎหมายให้รับทราบจนเป็นที่เข้าใจ ท้ายที่สุดยอมให้ตรวจค้นลิ้นชักและนำมาสู่การตรวจพบซองเงินของกลางอีกด้านหนึ่ง ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. แถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้น ทส. ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เมื่อเกิดเหตุต้องดำเนินการวินัย กรอบกฎหมาย ผิดว่าไปตามผิด จะสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทั้งหมด 16 สำนัก ส่วนการแต่งตั้งรักษาการขึ้นมาทำหน้าที่แทน มอบหมายปลัด ทส.เป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม เมื่อถามว่าจะสอบสวนว่าเงินที่ได้มาจะส่งมอบให้ใครหรือไม่ เพราะน่าเชื่อกันว่าเงินดังกล่าวไม่ได้หยุดที่อธิบดีเพียงคนเดียว นายวราวุธกล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องทำอย่างแน่นอน การสอบสวนจะทำให้ครบทุกมิติว่าทำอย่างไร โดยใคร จะสืบสวนให้ครบทุกคนต่อข้อถามว่า ที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้ยื่นขอความคุ้มครองจากกรณีดังกล่าวนั้น นายวราวุธกล่าวว่า ขอให้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทส.ไม่ได้มีอำนาจในหลายอย่างที่จะดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยโดยตรงกับผู้ถูกกล่าวหา เกรงจะถูกมองว่าฝ่ายการเมืองแทรกแซง ปล่อยให้เป็นหน้าที่แต่ละหน่วยงานสืบสวนสอบสวน นายวราวุธยังตอบคำถามที่ว่าในการโยกย้ายตำแหน่งหัวหน้าอุทยานเกรดเอหรือเอบวกจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากจริงหรือไม่ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายระดับผู้อำนวยการและหัวหน้าอุทยานจะปล่อยให้เป็นอำนาจอธิบดีและปลัด เป็นไปตามสายงานบังคับบัญชา ทั้งนี้จะแจ้งให้สาธารณชนทราบถึงความคืบหน้าในเรื่องการทำงานของคณะกรรมการข้อเท็จจริงที่ ทส.ตั้งขึ้นว่าไปถึงไหน ไม่หนีหายไปไหนด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวเพิ่มเติมว่า มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ทส.ประสานกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ขอดูหลักฐานและเอกสารข้อร้องเรียน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับหนังสือคำสั่งโยกย้ายแต่งตั้งว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่กับข้อร้องเรียนดังกล่าว เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมตรวจสอบสำนักอุทยานแห่งชาติทุกแห่งส่วนที่รัฐสภา เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หารือต่อที่ประชุมถึงการแก้ปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ป.ป.ช. เข้าจับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกลายเป็นสินค้าซื้อขาย เป็นโควตาผู้มีอำนาจ ต้องจัดระบบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการให้ถูกต้องเป็นธรรมและโปร่งใส กฎหมายปราบทุจริตต้องเข้มข้นกว่านี้ มีบทลงโทษรุนแรง เช่น จีนมีโทษสูงสุดประหารชีวิต ขอเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา กำหนดโทษผู้เรียกรับทรัพย์หรือรับผลประโยชน์ จากเดิมจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท เป็นจำคุก 15-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท หรือมีโทษประหารชีวิต และแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เพิ่มเติมให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวกับการทำความผิด รวมถึงแก้ไขกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 34 การให้รางวัลสินบนนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสตามระเบียบ