พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมสถานีทดลองข้าวสันป่าตอง ได้ทอดพระเนตรแปลงทดลอง แล้วมีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2519 ว่า “...ในอนาคต ข้าวไร่มีบทบาทมากเพราะไม่ต้องใช้น้ำมาก และอาศัยฝนตามธรรมชาติ” พระองค์ท่านทรงเห็นความสำคัญของการค้นคว้าวิจัยการทดลองพืชในสิ่งแวดล้อมแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชที่มีสภาพใกล้เคียงกับเขตตั้งถิ่นฐานของชาวไทยภูเขา ปี 2522 พระองค์ได้พระราชทานที่ดินของสถานีเกษตรหลวงสะเมิง ซึ่งตั้งบนที่สูงใน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ให้อยู่ในความดูแลของกรมวิชาการเกษตร โดยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาวิจัยการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกข้าวไร่ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต และพืชเมืองหนาวอื่นๆ โดยมีชื่อใหม่ว่า “สถานีทดลองข้าวไร่และธัญพืชเมืองหนาวสะเมิง” ต่อมาในปี 2528 กรมวิชาการเกษตรได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “สถานีทดลองข้าวไร่และธัญพืชเมืองหนาวปางมะผ้า”นายกฤษณะ ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวพัทลุง เผยว่า ข้าวไร่อยู่คู่กับคนใต้มาตั้งแต่โบราณ เป็นวิถีที่คู่กับคนใต้เหมาะสมกับภูมิสังคมคนใต้ที่ปลูกข้าวไร่ แซมยาง ต่อมาข้าวไร่ ได้สูญหายไปหลายสายพันธุ์จนปัจจุบันถือว่าเป็นข้าวที่หายากมาก สมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้สนองพระราชดำริองค์ในหลวง ร.9 ทรงพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ทำให้พันธุ์พืชพื้นเมืองได้รับการฟื้นฟูพัฒนาขึ้นมา เป็นอย่างมาก และทางศูนย์วิจัยข้าวพัทลุง ก็ได้สืบสานพระราชดำริทั้ง 2 พระองค์ท่านทำการฟื้นฟูข้าวไร่กลับคืนมา สำหรับแนวทางของศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงในการฟื้นฟูข้าวไร่คือ การรวบรวมพันธุ์ การคัด เลือกพันธุ์ดีเด่นที่จะได้อย่างน้อย 10 สายพันธุ์ ตลอดจนการกระจายพันธุ์ข้าวเพื่อให้ชุมชนได้ปลูกเป็นอาหารเป็นรายได้ นอกจากนั้นจะร่วมกับผู้ประกอบการเอกชน ร้านอาหาร และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ส่งเสริมการจัดเมนูข้าวไร่ร่วมกับอาหารดีพัทลุง และส่งเสริมการตลาดในวงกว้างต่อไป และมีแนวคิดในการฟื้นฟูข้าวไร่วิถีใหม่นอกเหนือจากขยายพื้นที่ในสวนยางปลูกใหม่แล้ว คือการปลูกในพื้นที่ว่างบริเวณบ้าน ที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก ซึ่งปกติในช่วงฤดูที่ฝนตกหนักเกษตรกรจะปลูกพืชผักไม่ได้ แต่ข้าวไร่จะเจริญเติบโตได้ดีทั้งนี้ ที่ผ่านมาศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงได้สำรวจและรวบรวมข้าวไร่ภาคใต้ไว้และส่งเก็บรักษาที่ศูนย์ปฏิบัติและเก็บเมล็ดเชื้อพันธุ์ข้าวแห่งชาติ ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี จำนวน 33 เชื้อพันธุกรรม ขณะเดียวกันสำนักเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร ได้เก็บรวบรวมเชื้อพันธุกรรมข้าวไร่ไว้ 50 เชื้อพันธุกรรม ทำให้ปัจจุบันศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงได้เป็นหน่วยงานหลักในการเก็บรวบรวมพันธุ์ข้าวไร่ภาคใต้ได้ทั้งหมด 83 เชื้อพันธุกรรม นำมาปลูกอนุรักษ์พันธุ์ไว้ในแปลงนาทดลองของหน่วยงาน.