จากความตั้งใจในการหาที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างครอบครัวใหม่ในแบบของตัวเอง ได้จุดประกายให้ นภนิศ อิศรางกูร ณ อยุธยา และ ฟ้าฉาย ดำรงชัยธรรม กลายมาเป็นดีเวลลอปเปอร์รุ่นใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยชิมลางทำโครงการแรกที่ตอบโจทย์ครอบครัวคนรุ่นใหม่ ด้วยการทุ่มพลังกายและใจเกินร้อยสร้างชื่อสร้างผลงานให้เป็นที่รู้จักนภนิศ อิศรางกูร ณ อยุธยา สถาปนิกหนุ่มที่มีประสบการณ์การทำโครงการนับหมื่นล้าน จากสายงานที่เป็นผู้จัดการฝ่ายอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ ฟ้าฉาย ดำรงชัยธรรม Director of Media Channels บริษัท จีเอ็มเอ็ม โอ ช้อปปิ้ง จำกัด ได้จับมือกันมาเป็นผู้บริหาร “โครงการ SANSA (สรรษา)” เอกซ์คลูซีฟ เรสซิเดนซ์ บนทำเลอารีย์-พระราม 6 ได้บอกว่า “จุดเริ่มของโครงการมาจากที่เราอยากหาบ้านสำหรับอนาคตร่วมกัน เลยหาทั้งคอนโดฯตระเวน หาในเมืองทุกที่เลย ไม่เจอในสิ่งที่อยากได้ คือถ้าเป็นคอนโดฯก็อยากได้ไซส์ใหญ่หน่อย แต่คอนโดฯไซส์ใหญ่ที่อยู่กลางเมืองมากๆจะมีราคาแพงมาก เลยเปลี่ยนมามองบ้านแนวราบ ด้วยความที่ “คุณวิทย์-นภนิศ” อยู่แถวอารีย์ เลยพยายามมองหาซื้อที่ดิน เพื่อสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ตัวเอง จนได้ที่ดินแปลงที่มีขนาด 280 ตร.ว. อยู่ในคอมมูนิตี้เก่าแก่ เงียบสงบ ใกล้ความสะดวกสบาย ด้วยที่ดินแปลงใหญ่เกินกว่าที่ต้องการ จึงคิดที่จะทำบ้านแล้วหาเพื่อนบ้านที่ดีมาอยู่ด้วยกัน จึงมาเป็นโครงการ SANSA (สรรษา) ที่มีเพียง 4 หลัง ราคาเริ่มต้น 49-65 ล้านบาท มูลค่ารวมโครงการ 220 ล้านบาท” ทั้งคู่ยังบอกถึงธุรกิจแรกของตัวเองว่า โครงการนี้น่าจะตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มีการออกแบบที่แตกต่าง สามารถปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน และปรับเปลี่ยนไปตามอายุขัย โดยมีทำเลที่ตั้งเป็นจุดเด่นของโครงการ “เราตั้งใจและใส่ใจมากๆ เราตั้งใจจะซื้อหลังหนึ่งเป็นของตัวเอง จึงทำเหมือนสร้างบ้านให้ตัวเอง ดูดีเทลทุกอย่างให้ลงตัวที่สุด เพราะคิดว่าไม่ใช่แค่จะขายบ้าน เราต้องขายความรู้สึกของคนอยู่ ที่อยู่อย่างมีความสุข เลือกสิ่งที่ดีเหมาะสมที่สุด แล้วคิดต่อว่าถ้าอยู่ไประยะยาวๆ การบำรุงรักษายากไหม ซึ่งชื่อโครงการ “สรรษา” ก็มาจากคำว่า สรรหา กับหรรษา มารวมกัน เพราะเราสรรหาสิ่งที่ใช่ที่สุด ให้ทุกคนมีความสุขในทุกๆวันที่อยู่ในบ้าน”ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ยังบอกอีกด้วยว่า “ได้เรียนรู้ในการทำงานเยอะเลย แต่ก่อนเราทำงานเป็นส่วนหนึ่งของทีม แต่ตอนนี้มาเป็นเจ้าของโครงการ ทำให้ต้องมองภาพใหญ่ ภาพรวม และกล้าที่จะตัดสินใจ อุปสรรคที่เจอไม่เคยทำให้ท้อ กลับรู้สึกตื่นเต้น แล้วยิ่งสามารถแก้ปัญหาได้ ยิ่งรู้สึกมีความสุขมากๆที่เราทำได้” ส่วนผู้บริหารสาวได้เสริมว่า “ทีแรกก็จะยากหน่อย แต่พอเรารู้ในธุรกิจแล้ว ก็ทำให้เราเชื่อมั่นในการตัดสินใจในแต่ละอย่างได้ และสามารถทำได้ในสิ่งที่เราคิดค่ะ”พร้อมกันนี้ทั้งคู่ยังได้ตอบพร้อมกันถึงการทำงานว่า ความที่เราเป็นหน้าใหม่ในวงการ อสังหาฯ เราจะใช้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ฝีมือว่าเราดีจริงๆ ตอบโจทย์ความต้องการ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า....ขอเวลคัมผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพแบบนี้เลย!