Apple เปิดตัวไลน์อัป iPad ใหม่ล่าสุด 2 รุ่นด้วยกันเสริมทัพในปีนี้ เริ่มต้นด้วย iPad รุ่นเริ่มต้น ล่าสุดเป็น iPad รุ่นที่ 10 ที่อัปเกรดชิปใหม่สเปกแรงขึ้น ดีไซน์เบาและบางลง จอ Liquid Retina ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 10.9 นิ้ว แบบจดขอบ ย้าย Touch ID ไปไว้ที่ปุ่มด้านบนทำให้ปลดล็อกได้เร็ว ออกแบบเหมือน iPad Air 5 ระบบกล้องใหม่ พอร์ตใหม่ USB-C เพิ่มสีสันสดใส ได้แก่ สีฟ้า, สีชมพู, สีเหลือง และสีเงินiPad ใหม่ขับเคลื่อนด้วยชิป A14 Bionic ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานใช้งานได้ตลอดวัน ประมวลผลซีพียูได้เร็วขึ้น 20% และจีพียูทำงานกราฟิกเร็วขึ้น 10% เมื่อเทียบรุ่นก่อนหน้าที่ใช้ชิป A13 Bionic เร็วกว่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์รุ่นขายดีที่สุดถึง 5 เท่า และเร็วกว่า iPad รุ่นที่ 7 ถึง 3 เท่า การเรียนรู้ของระบบใช้ Neural Engine แบบ 16-core มากกว่ารุ่นก่อนหน้า 2 เท่า ระบบกล้องใหม่นับเป็นครั้งแรกที่กล้องหน้าอัลตราไวด์ 12 MP แบบแนวนอน โทร. FaceTime หรือบันทึกวิดีโอสำหรับโซเชียลมีเดีย ก็สามารถมองตรงไปที่กล้องได้ตลอดเวลา รองรับ Center Stage หรือ คุณสมบัติอยู่ตรงกลาง ที่ช่วยจัดการให้ผู้ใช้งานอยู่ตรงกลางเฟรมเสมอ กล้องหลัง 12 MP รองรับวิดีโอ 4K และสโลว์โมชันที่ 240 fpsสำหรับไมโครโฟนคู่แบบแนวนอนไปด้วยกันกับกล่องอัดเสียงจากกล้องที่กำลังใช้งานและลดเสียงรอบข้างที่รบกวนให้เหลือน้อยที่สุด ส่วนลำโพงสเตอริโอแนวนอนใหม่ที่ทำงานผสานกับจอภาพขนาดใหญ่ขึ้นบน iPad ก็ทำให้ประสบการณ์การรับชมวิดีโอดียิ่งขึ้นการเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi 6 ใหม่ ทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้น 30% ส่วนรุ่นเซลลูลาร์ 5G ใช้ระดับความเร็วสูงสุดได้ถึง 3.5Gbps เป็นครั้งแรกเปลี่ยนมาเป็นพอร์ต USB-C แต่ยังคงใช้ดินสอ Apple Pencil รุ่นที่ 1 ดังนั้นเมื่อจับคู่หรือชาร์จแบตต้องใช้อะแดปเตอร์ซึ่งหากซื้อ Apple Pencil รุ่นที่ 1 เวอร์ชันใหม่ราคา 3,900 บาท จะแถมมาให้ แต่ถ้าจะใช้ Apple Pencil เดิมอยู่จะต้องซื้ออะแดปเตอร์ราคา 390 บาท ราคาจำหน่ายและอุปกรณ์เสริมiPad รุ่นที่ 10 รุ่น Wi-Fi จะมี 2 ขนาดความจุคือ 64 GB และ 256 GB ราคาเริ่มต้นที่ 17,900 บาท ส่วนรุ่น Wi-Fi+Cellular มี 2 ขนาดความจุคือ 64 GB และ 256 GB ราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท อย่างไรก็ตามทาง Apple ยังนำ iPad รุ่นที่ 9 วางจำหน่ายอีกทางเลือก โดยรุ่น Wi-Fi เริ่มต้นที่ 11,400 บาท และ Wi-Fi+Cellular เริ่มต้นที่ 16,400 บาท ในสีเงินและเทาสเปซเกรย์Magic Keyboard Folio ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad รุ่นใหม่ สีขาว จำหน่ายราคา 9,990 บาท โดยคีย์บอร์ดที่มีแทร็กแพดขนาดใหญ่และรองรับการคลิกตรงไหนก็ได้พร้อมด้วยคำสั่งนิ้ว ดีไซน์แบบสองชิ้นที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระและอเนกประสงค์ ประกอบด้วยคีย์บอร์ดแบบถอดได้และปกด้านหลังที่คอยช่วยปกป้องตัวเครื่องซึ่งสามารถยึดติดกับ iPad ด้วยแม่เหล็ก โดยยึดติดคีย์บอร์ดกับ Smart Connector ตรงขอบของ iPad ด้วยแม่เหล็กซึ่งจ่ายไฟและรับส่งข้อมูลได้ขณะเดียวกัน iPadOS 16 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดจะเปิดให้อัปเดตตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.นี้ จะมาพร้อมกับ iPad ใหม่ และรองรับการใช้งานกับ iPad รุ่นที่ 5 เป็นต้นมา iPad mini รุ่นที่ 5 เป็นต้นมา iPad Air (รุ่นที่ 3) เป็นต้นมา และ iPad Pro ทุกรุ่น iPad Pro ชิป M2 สุดล้ำApple ระบุว่า iPad Pro ชิป M2 ใหม่เป็นที่สุดของการผสานความสะดวกในการพกพาและทรงประสิทธิภาพที่เหลือเชื่อ เป็นอุปกรณ์ล้ำหน้าที่สุดในโลก แนะนำ 2 รุ่น คือ รุ่น 11 นิ้ว จอภาพ Liquid Retina และ 12.9 Liquid Retina XDR ช่วยการจัดเรื่องสีได้ถูกต้อง ทำให้มีมือโปรปรับแต่งสีในภาพถ่ายและวิดีโอได้ถูกต้อง เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.นี้เป็นต้นไปด้วยพลังชิป M2 ที่ให้ความแรงและประ หยัดพลังงาน ประมวลผลซีพียูแบบ 8 คอร์ เร็วขึ้น 15% และจีพียูแบบ 10 คอร์ ทำงานกราฟิกเร็วขึ้น 35% เมื่อเทียบรุ่นก่อนหน้าที่ใช้ชิป M1 การทำงาน Neural Engine แบบ 16-core ประมวลผลได้สูงสุด 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที เร็วกว่า 40% ทำให้ iPad Pro ทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีกขั้นเมื่อต้องจัดการกับงานด้านการเรียนรู้ของระบบชิป M2 ช่วยความแรงให้เวิร์กโฟลว์ที่ต้องใช้พลังการประมวลผลมากที่สุด เช่น ช่างภาพต้องปรับแต่งในคลังรูปภาพจำนวนมาก นักออกแบบที่ต้องจัดการกับวัตถุ 3D ที่ซับซ้อน บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องถ่ายภาพและวิเคราะห์ขั้นสูง กราฟิกสวยงามสมจริงสำหรับเกมเมอร์ รองรับการถ่ายวิดีโอ ProRes ได้เป็นครั้งแรก แปลงฟุตเทจ ProRes ได้เร็วสูงสุดถึง 3 เท่า ช่วยให้การถ่ายวิดีโอ ปรับแต่งและเผยแพร่วิดีโอระดับโรงภาพยนตร์ Apple Pencil ตรวจจับเหนือจอภาพการทำงานของ Apple Pencil รุ่นที่ 2 สามารถยกปลาย ตรวจจับเหนือจอภาพได้ถึง 12 มม. ช่วยให้ผู้ใช้เห็นตัวอย่างเครื่องหมายก่อนที่จะขีดเขียน ทำให้สเกตช์และวาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น ราคาพร้อมอุปกรณ์เสริมiPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ชิป M2 มีให้เลือกทั้งสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ โดยมีความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB รุ่น 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 38,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ส่วน รุ่น 12.9 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 44,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 50,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellularสำหรับ Magic Keyboard สำหรับ รุ่น 11 นิ้วใหม่ จำหน่ายในสีดำและสีขาวในราคา 11,900 บาท ส่วนรุ่น 12.9 นิ้วใหม่ในราคา 13,990 บาท Smart Keyboard Folio จำหน่ายราคา 6,990 บาท สำหรับรุ่น 11 นิ้วใหม่ และ 13,990 บาท สำหรับรุ่น 12.9 นิ้ว ส่วน Smart Folio จำหน่ายในสีดำ สีขาว และสีมารีน บลูราคา 3,390 บาท สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ 4,190 บาท สำหรับ รุ่น 12.9 นิ้วใหม่ Apple TV 4K ชิปใหม่Apple TV 4K รุ่นใหม่ การออกแบบยังเหมือนรุ่นเดิม ใช้ชิป A15 Bionic ซีพียูเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 50% และจีพียูเร็วขึ้น 30% ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้นเล่นเกมได้ไหลรื่นยิ่งขึ้น รองรับ HDR10+ เมื่อผนวกกับ Dolby Vision ทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมภาพยนตร์และรายการทีวีได้คมชัดกว่าบนทีวีเครื่องอื่นๆ รองรับโฮมเธียเตอร์ระดับภาพยนตร์ด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos, Dolby Digital 7.1 หรือ Dolby Digital 5.1 Apple TV 4K ใหม่ มี 2 รุ่น คือรุ่น Wi-Fi ราคา 5,290 บาท รุ่น Wi-Fi + Ethernet ราคา 5,990 บาท ราคารวมรีโมตซึ่งรองรับพอร์ต USB-C ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกรุ่น แยกซื้อได้ในราคา 2,390 บาท.