เมื่อเร็วๆนี้ทีมวิจัยจากสถาบันโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัยนิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส ในเมืองทอรูน ทางตอนกลางของภาคเหนือโปแลนด์ รายงานการค้นพบสุสานฝังศพที่น่าตื่นตะลึงเมื่อปลายเดือน ส.ค.ซึ่งหลุมฝังศพดังกล่าวมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเปียน (Pień)ทีมวิจัยเผยว่า ในหลุมฝังศพดังกล่าวมีซากโครงกระดูกหญิงสาวรายหนึ่ง ที่สร้างความประหลาดใจก็คือ ร่างของเธอมีเคียวโลหะวางขวางที่ลำคออยู่ และมีแม่กุญแจรูปสามเหลี่ยมล็อกที่นิ้วหัวแม่เท้าซ้ายไว้ ขณะที่ฟันหน้าซี่หนึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกติแถมยังยื่นออกมาด้านหน้า นอกจากนี้ ยังพบหมวกที่ทำจากไหมสีทองหรือสีเงิน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์สถานะทางสังคมของผู้ตายว่าเป็นบุคคลในวงสังคมชั้นสูง ทว่าแม่กุญแจและเคียวนั้นดูจะเชื่อมโยงถึงความเชื่อด้านโชคลางในศตวรรษที่ 17 เนื่องจากการปฏิบัติกับศพคนตายในลักษณะนี้เป็นเรื่องธรรมดาทั่วโปแลนด์ในศตวรรษที่ 17 ด้วยเชื่อว่าเป็นการป้องกันการฟื้นคืนชีพของคนตายหรือผู้ที่ถูกตราหน้าว่าเป็น “แวมไพร์” หรือ “ผีดูดเลือด” นั่นเอง ซึ่งนอกเหนือจากการใช้เคียววางขวางที่คอของผู้วายชนม์แล้ว บางครั้งศพก็ถูกเผา หรือทุบด้วยหิน ไม่ก็ถูกตัดหัวและขานั่นหมายความว่า โครงกระดูกของสตรีผู้นี้น่าจะเป็นผู้ที่ตกเป็นแวมไพร์ ตามความเชื่อของคนในยุคศตวรรษที่ 17 ซึ่งทีมวิจัยจากสถาบันโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัยคราคูฟ ในโปแลนด์ จะทำการทดสอบดีเอ็นเอบนซากศพเพื่อหาข้อมูลของหญิงสาวผู้นี้ต่อไป.Credit : CCO Public Domain