เมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ชี้แจงถึงประเด็น “โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว” ว่า ขณะนี้บริษัทต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 จำนวนรวมกว่า 40,000 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการไม่ได้รับชำระค่าจ้างจากการเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 อ่อนนุช-แบริ่ง และตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และค่าติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล อีกทั้งวิกฤติโควิด-19 ทำให้ผู้โดยสารลดลงมากกรณีที่มีการทำสัญญาจ้างบริษัทเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าไปจนถึงปี 2585 นั้น คณะทำงานขณะนั้นเห็นว่ามีความเหมาะสม เพราะหากมีการจ้างในระยะเวลาสั้นกว่านี้ ค่าจ้างเดินรถต่อปีก็จะสูงกว่านี้เพราะค่าใช้จ่ายที่เป็นการลงทุน เช่น ขบวนรถไฟฟ้าจะต้องหารด้วยจำนวนปีที่น้อยลง เป็นต้น สำหรับประเด็นเรื่องสัญญาให้บริการเดินรถระหว่าง KT และบริษัทมีข้อสัญญาเรื่องรักษาความลับนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายจากการใช้ข้อมูลของคู่สัญญาโดยไม่ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่งก่อน นอกจากนี้มีกำหนดข้อยกเว้นให้สามารถเปิดเผยข้อมูลในสัญญา ตามคำสั่งของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2555 ป.ป.ช. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ใช้อำนาจตามกฎหมายตรวจสอบสัญญาให้บริการเดินรถดังกล่าวแล้วส่วนการขยายสัมปทานออกไปอีก 30 ปีนั้น ไม่ได้เป็นข้อเสนอบริษัทแต่อย่างใด และบริษัทเห็นว่าสามารถดำเนินการได้ที่จะแก้ไขสัญญา ขณะนี้ บริษัทต้องการเพียงให้มีการชำระหนี้ที่ค้างชำระกว่า 40,000 ล้านบาท เพื่อไปใช้ในการดำเนินกิจการและชำระหนี้ของบริษัท ซึ่งเกิดขึ้นจากโครงการ.