ไต้หวันถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงอีกตลาด มีการบริโภคผลไม้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อันเนื่องมาจากชาวไต้หวันมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง นอกจากทุเรียนจะเป็นผลไม้ยอดฮิตอันดับ 1 แล้ว มังคุดยังตามมาเป็นอันดับ 2มังคุดที่วางขายในไต้หวันสามารถทำราคาได้สูงถึงลูกละ 40-50 บาท กันเลยทีเดียวแต่มังคุดของไทยจำต้องชะลอการส่งออกไปไต้หวันระยะหนึ่ง อันเนื่องมาจากปัญหาแมลงวันผลไม้ กระทั่งปี 2562 ไต้หวันอนุญาตให้ไทยส่งออกมังคุดไปไต้หวันได้แต่มีเงื่อนไขต้องผ่านกระบวนการอบไอน้ำ เพื่อกำจัดแมลงวันผลไม้ และต้องมีเจ้าหน้าที่เกษตรของไต้หวันมาควบคุมการตรวจปล่อยก่อนการส่งออก...แต่เมื่อเจอการระบาดของโควิด-19 ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินทางมาไทยได้ มังคุดไทยเลยหายไปจากตลาดไต้หวันจนถึงตอนนี้ด้วยสถานการณ์โควิดกำลังคลี่คลายสู่สภาวะปกติ รวมไปถึงการทวงตลาดสำคัญคืน อันจะเป็นอีกหนทางกระจายผลผลิตมังคุดให้กับเกษตรกร นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” มิติใหม่ของความร่วมกันต่างหน่วยงานของภาครัฐ จึงสำแดงฤทธิ์อีกครั้ง ด้วยฝีมือของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร ร่วมกันผลักดันและเจรจา นำเสนอข้อมูลทางวิชาการให้ไต้หวันยอมรับ และมั่นใจในวิธีการตรวจปล่อยมังคุดของไทยล่าสุดไต้หวันอนุญาตให้โรงอบไอน้ำบริษัท SEM กลับมาส่งออกมังคุดได้ โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ไต้หวันเดินทางมาควบคุมการตรวจปล่อยสินค้าเป็นแห่งแรกของประเทศ มีผลตั้งแต่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมาแถมยังมีโรงอบไอน้ำอีก 4 โรง หากผ่านการทำการทดสอบ ตามกระบวนการที่ไต้หวันกำหนดแล้ว ก็จะสามารถส่งออกมาไต้หวันได้เช่นกันทั้งนี้ขอให้ผู้ส่งออกไทยระมัดระวังเรื่องมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารตกค้างและแมลง เนื่องจากไต้หวันมีความเข้มงวดมาก หากตรวจพบแมลงหรือสารตกค้างสินค้าจะถูกทำลายหรือส่งกลับทั้งลอต และอาจเป็นผลให้สินค้านำเข้าในลอตต่อไป จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น.สะ-เล-เต