การฉ้อราษฎร์บังหลวง...การทุจริตประพฤติมิชอบ เรียกรับส่วย...เป็นสนิมเนื้อในกัดกินสังคมไทยมานาน!ทำให้ประเทศนี้ไม่ไปไหนซะที จะทำอะไรต้องจ่ายเงินเบี้ยบ้ายรายทาง เงินแป๊ะเจี๊ยะให้ข้าราชการผู้มีอำนาจ การทำธุรกิจอะไรซักอย่าง มันกลายเป็นเรื่องลำบากยากเย็น ต้องมีเงินใต้โต๊ะหล่อลื่น ไม่เช่นนั้นมันติดขัดไปหมด?หลายคนอยู่กับปัญหานี้มานาน จนกลายเป็นเรื่องปกติ สร้างวัฒนธรรมที่เลวร้าย ทำให้บ้านเมืองอยู่กันแบบโกงๆกันมาทุกยุคทุกสมัย!โดยเฉพาะในระบบ “ข้าราชการ” ที่ยิ่งโตก็ยิ่งมีโอกาส จะอนุมัติโครงการ อนุมัติใบอนุญาตอะไรซักอย่าง มันต้องมีผลตอบแทน...ที่ผ่านมาที่กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ถูกดำเนินคดีติดคุกติดตะราง ส่วนใหญ่จะเป็นนักการเมือง เพราะมันมีข้อมูลหลักฐานอยู่ทนโท่ เรียกว่า เอากันหน้าด้านๆ เพราะถือว่าตัวเองมีอำนาจ!แต่ในส่วนยิบย่อยตามหน่วยราชการต่างๆทั่วประเทศก็ไม่แพ้กัน แค่ชาวบ้านเข้าไปขอดำเนินการอะไรซักอย่างทั้งส่วนกลางและภูมิภาค มันต้องมีค่าน้ำร้อนน้ำชาไม่มากก็น้อย?!เคยชมเชยไปหลายครั้ง วันนี้ต้องขอชมเชยอีก สำหรับหน่วยงานตำรวจที่เคยเงียบงัน ไม่โดดเด่นอย่าง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)สมัยก่อนเรียกว่า เป็นหน่วยงานที่ไม่มีผลงาน ย้ายมานั่งตบยุงไปวันๆ?แต่ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีการจับกุมข้าราชการทุจริตและประพฤติมิชอบหลายคดี แนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. นำกำลังไปล่อจับ น.ส.ภัทรพิชชา อำไพประสิทธิ์ นายก อบต.คลองกิ่ว จ.ชลบุรี และ นายทรงวุฒิ น้อยบัวงาม รองนายก ถึงที่ทำงาน เพราะเรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตถมดิน 1 แสนบาท ชนิดคามือ เงินของกลางเรียงเป็นตับ!ถึงแม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ ตำรวจคงไม่ยี่หระ เพราะงานนี้วางแผนรวบพร้อมพยานหลักฐานรัดกุมขอให้รักษาการทำงานเอาไว้ ให้คนเลวได้หวาดหวั่นบ้างไม่ใช่เหิมเกริมเรียกค่าน้ำร้อนน้ำชากันหน้าด้านๆต่อหน้าธารกำนัล แบบนี้มันก็เกินไป?สหบาท