เปิดประสบการณ์ความท้าทายใหม่! ของหนุ่ม “เติร์ด-ลภัส งามเชวง” หนุ่มฮอตหน้าใสสมาชิกวง TRINITY (ทรินิตี้) ขวัญใจแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศ ที่มารับบท คีย์ หนุ่มเย็นชา เงียบขรึม เหมือนคนไร้หัวใจ ใน “ถึงเธอจิ๊กซอว์ของฉัน (TO MY PUZZLE PIECES)” ซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ผสานความแฟนตาซี ออกอากาศ คืนอังคาร–พุธ ทางช่อง 3HD เวลา 23.00 น. เลยชวนเติร์ดเล่าการทำงานและอัปเดตชีวิตเริ่มจาก “เรื่องนี้พูดถึงในโลกที่ทุกคนเกิดมาพร้อมกับจิ๊กซอว์ประจำตัว ที่สามารถจับคู่กับจิ๊กซอว์ของอีกฝ่ายได้เพียงคนเดียว แต่โชคชะตาดันเล่นตลกให้ มินทร์ (นาน่า-ศวรรยา) เกิดมาพร้อมกับจิ๊กซอว์ที่สามารถจับคู่กับอีกฝ่ายได้ 2 คน! เลยเป็นความอลหม่าน ตัวผมรับบทคีย์ เป็นคนนิ่งๆโลกส่วนตัวสูง กำแพงสูงไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ถามว่า ไกลตัวมั้ยก็ไม่เชิง มันมีจุดที่สามารถดึงตัวเองออกมาได้ เช่นตอนเราเพิ่งตื่นไม่อยากคุยกับใคร กับนาน่า เคยเล่นละครเลือดข้นคนจางกันแต่แทบไม่ได้เข้าฉากด้วยกัน เรื่องนี้ก็เข้ากันได้ดี ความยากที่สุดผมว่าคงเป็นจังหวะหลายๆอย่างค่อนข้างใหม่สำหรับเรา เรื่องนี้เป็นซีรีส์รอม-คอม ที่มีความลึกของมันอยู่ ทุกอย่างลึกไม่ว่าคาแรกเตอร์ แบ็กกราวน์ ความรู้สึกตัวละคร” จะได้เห็นบทบาทเติร์ดแบบที่ไม่เคยเห็นมั้ย? “ปกติผมจะไม่ได้เป็นคนนิ่งขนาดนั้น ไม่ขรึม ในเรื่องนี้จะได้เห็นมุมเย็นๆของผมบ้าง เป็นอีกประสบการณ์ใหม่ด้วย ผมเพิ่งรู้หลังถ่ายไปสักพักว่าได้ออกอากาศช่อง 3 ก็ตื่นเต้นเพราะยุคสมัยเราโตมากับการดูทีวี ตื่นเต้นที่ได้มีผลงานชิ้นนี้ครับ” เราห่างหายจากละครไปนานมั้ย?“ถ้าเป็นละครก็เรียกว่าทิ้งมาตั้งแต่เลือดข้นคนจางเลยครับ หลายปีอยู่”เป็นช่วงเดียวกับแจ๊คกี้-จักริน ก็มีละครเหมือนกัน เวลาแต่ละคนไปทำงานอื่น เราคุยกันมั้ย? “จริงๆเราจะไม่ค่อยได้แชร์บทบาท อาจจะเป็นว่าวันนี้ถ่ายมาเป็นยังไงบ้างเพราะเราก็ค่อนข้างทำหลายบทบาทควบคู่กัน”พอมีผลงานด้านอื่น แฟนคลับทริ นิตี้ก็ลุ้นไปด้วยทำให้เรากดดันกับผลงานหรือว่าตื่นเต้นดีใจมากกว่ากัน? “จริงๆน่าจะเป็นความดีใจมากกว่าที่มีคนรอติดตามผลงานของเรา ส่วนตัวผมเองเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้สึกกดดันอะไรมากเท่าไหร่ เหมือนเรารับแรงบวกมาจากทุกคนแล้ว เราก็พยายามทำงานเราให้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้เต็มที่ที่สุด”แบ่งเวลาสำหรับตารางแต่ละวันยังไงให้พร้อมกับทุกงาน? “จริงๆการเมเนจตัวเองผมจะมีปฏิทินที่สร้างโดยพี่ๆทีมงาน ก็จะเป็นตารางชัดเจนว่าเวลานี้ซ้อม เวลานี้ถ่ายซีรีส์ หรือรับงาน ส่วนการทำให้ตัวเองพร้อม จริงๆก็พยายามทำให้เต็มที่ให้ได้ เรื่องการพักผ่อน ถ้าเราเลือกได้เราก็จะพยายามพักผ่อนให้เต็มที่ทุกครั้ง แต่บางโอกาส ถึงแม้เราจะพักผ่อนน้อยก็ตาม ทุกอย่างต้องเต็มที่”แรงฟิตต่างๆมาจากไหน? “กาแฟช่วยได้ครับ (หัวเราะ) แล้วก็พยายามงีบให้ได้ถ้ามีเวลาเหลือ นั่งรถก็นอนพัก”อัปเดตเรื่องเพลงตอนนี้หน่อย? “ตอนนี้เราก็อยู่ในพาร์ตของอัลบั้มเต็มครั้งแรกของทรินิตี้คืออัลบั้ม Breath ปล่อยมา 2 เพลงสำหรับครึ่งแรกของ episode ในอัลบั้มคือ Life Ain’t Over และ Nobody คือเราจะทยอยปล่อยออกมาเรื่อยๆ ครึ่งแรกมีคอนเซปต์เกี่ยวกับลมหายใจที่ไม่เหมือนกัน ต้องรอดูว่าออกมาแบบไหน”หลายคนมองว่าเพลงของวงเรายกระดับมาตรฐานเพลงไทย เราภูมิใจมั้ย? “จริงๆแล้วสำหรับผมเองนะ รู้สึกว่าเราไม่ได้โฟกัสที่ข้างนอกแต่เราโฟกัสที่พาร์ตของเราในฐานะทรินิตี้เพราะการทำงานแต่ละเพลงมันไม่ใช่แค่เราคุยกันเองแต่มีพาร์ตของทีมงานเยอะมาก ผ่านการประชุม แชร์ไอเดียและทีมงานก็ทำคอนเซปต์ออกมาเยอะมาก เราโฟกัสกับมาตรฐานของตัวเองมากกว่าว่าอันนี้ถึงจุดที่เราแฮปปี้หรือยัง” ฝันอยากให้ทรินิตี้ไปถึงจุดไหนของวงการ? “เราไม่ได้ฟิกซ์ว่าวันนี้เราจะถึงจุดนี้แต่รู้สึกว่าทรินิตี้เหมือนชีวิตคนคนหนึ่ง เราก้าวต่อไปเรื่อยๆ เราไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าเราจะวิ่งร้อยเมตร เพราะเราอาจจะวิ่งได้แค่ร้อยเมตรแต่ถ้าเราไม่ได้ตั้งเป้าอะไร เราอาจจะไป 150 200 300 เมตรก็ได้เพราะมันคือการไม่ได้ตั้งเป้าแปลว่าเราจะเดินต่อไปเรื่อยๆ” มองการเติบโตของตัวเองวันนี้เป็นยังไงบ้างจากวันแรกที่เริ่มเข้ามา? “ถ้ามองการเติบโตของตัวเอง ผมยังรู้สึกว่าผมเด็กอยู่เลย (ยิ้ม) ถึงแม้เราจะอยู่ในวงการนี้มา 10 กว่าปีแล้วก็ตาม แต่เรารู้สึกว่ามันเพิ่งเริ่มต้นสำหรับผม มันยังมีทางอีกยาวไกลที่เราต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ เก็บเป็นประ สบการณ์พัฒนาหล่อหลอมตัวเองให้โตขึ้นเรื่อยๆ” การอยู่ตรงนี้ก็เจอข่าวนู่นนี่ ที่ผ่านมาเราตั้งรับและรับมือผ่านมาได้ยังไง?“มันกลับมาสู่คำตอบที่ว่าเราพยายามโฟกัสที่ตัวเองเพราะบางอย่างมันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ มันเหนือการควบคุมของเรา การที่เราคิดแล้วเรารู้สึกดาวน์ไปกับมัน มันเหมือนหาทางออกไม่ได้ มันไม่เฮลตี้กับตัวเรา สุดท้ายเราต้องโฟกัสผลงานตัวเองและต้องทำงานต่อไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ตาม สุดท้ายเราจะหยุดไม่ได้” โควิดทำให้ไม่ได้เจอแฟนๆ นานมาก ปรับวิธีสื่อสารกันยังไง? “จริงๆพอเข้าสู่ยุคโควิดทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด เราต้องตั้งใจทำผลงานให้ดีที่สุดเพราะมีคนรอเราอยู่ รู้ว่ามีคนที่ถึงแม้จะไม่ได้เจอเรา 2 ปี แต่เค้ายังติดตามรอผลงานเราอยู่ รู้สึกว่านั่นล่ะเป็นแรงผลักดันสำคัญมากๆให้ทำผลงานที่ดีออกมา จริงๆเราก็สื่อสารกันตลอดเวลา เราปล่อยผลงานอะไรมาทุกคนก็จะให้การซัพพอร์ตอย่างดี หรือตามโอกาสสำคัญก็ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ จริงๆ เราขอบคุณทุกอย่างเลย เป็นสิ่งที่เติมเต็มเรามากๆ”.เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ