เป็นอีกข่าวอยู่ในความสนใจเกี่ยวกับคดีปัญหาเกี่ยวกับผู้คนที่เข้ามาบุกรุกและทำลายโบราณสถานพื้นที่ เขาแดง-เขาน้อย ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่ง กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียน โบราณสถาน บริเวณเมืองสงขลาเก่า เนื้อที่กว่า 2,460 ไร่ ครอบคลุมเขาแดงและภูเขาน้อย รวมทั้งโบราณสถานที่กระจายอยู่รอบๆเชิงเขาเพื่อประกาศคุณค่าความสำคัญของจุดกำเนิดพัฒนาการของเมืองสงขลาเป็นความกังวลชาวสงขลาข้อสงสัยที่ว่า กลุ่มผู้บุกรุกมีอิทธิพลหรือเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ ทำไมคดีไม่คืบหน้าเท่าที่ควรพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทราบปัญหา ลงพื้นที่บ้านเกิดร่วมกับ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.อ.ธีระศักดิ์ ไชยโยธา รอง ผบก.ภ.จ.สงขลานายพงศ์ธันว์ สำเภาทอง ผอ.สำนักศิลปากรที่ 11 จ.สงขลา นายพงษ์พยัคฆ์ ศรียา ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 จ.สงขลา นายภูมิพัฒน์ สุวรรณคีรี หัวหน้าช่างที่ดินสิงหนครลงพื้นที่เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่ โบราณสถาน ด้านหลังป้อมปืนหมายเลข 9 บริเวณเขาแดง-เขาน้อย อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลาเป็นจุดที่ผู้บุกรุกอ้างว่าต้องการปรับพื้นที่ 3 ไร่ เพื่อทำประโยชน์ตรวจสอบพบข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวข้องกับการบุกรุกพื้นที่โบราณสถานส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาระบุว่า ต้องการปรับพื้นที่เพื่อทำประโยชน์ใช้เป็นที่เลี้ยงสุนัข 300 ตัว เป็นเพียงข้ออ้างของผู้ต้องหาเอง เพราะลักษณะพื้นที่ที่เสียหายเป็นการบุกรุกเอาพื้นที่ของหลวงมาเป็นของตัวเองตักเอาหน้าดินพื้นที่ไปขายตำรวจพบข้อมูลการบุกรุกที่ดินเพิ่มเติมจากข้อมูลเดิมเมื่อปี 2557 ที่เคยมีการบุกรุกมาก่อนหน้านี้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สั่งให้ขยายผลประเด็นนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ด้วยหรือไม่ โดยเน้นการตรวจพิสูจน์และรวบรวมพยานหลักฐานโดยเร็วเพื่อให้ความจริงปรากฏและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายกำชับให้ตำรวจพื้นที่ประสานงานให้กรมศิลปากรเข้าสำรวจพื้นที่ว่ามีความเสียหายมากมายขนาดไหน และเสี่ยงต่อการพังถล่มลงมาหรือไม่ เพื่อวางแนวทางในการเข้าบูรณะพื้นที่ดังกล่าวไม่ให้ถูกทำลายมากกว่านี้งานนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ซึ่งเป็นคนพื้นที่สงขลาเข้ามารับผิดชอบทำคดีด้วยตัวเองกำชับ ผบก.ภ.จ.สงขลา ทำคดีให้เต็มที่ ไม่ปล่อยให้กลุ่มบุคคลใดๆ มาทำลายโบราณสถานสำคัญสิ่งที่ชาวสงขลารัก และหวงแหน.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th