ชุมพรเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมากแทบทุกด้าน ทั้งการเป็นประตูสู่ภาคใต้ แหล่งอาหารทะเล พืชเศรษฐกิจหลัก ทุเรียนผลิตได้เป็นอันดับ 2 ของประเทศ กาแฟโรบัสต้า ผลิตได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศนอกจากนั้นยังมีเศรษฐกิจภาคบริการด้านการท่องเที่ยวหลากหลาย มีศักยภาพเชื่อมไปยังหมู่เกาะต่างๆในอ่าวไทย จึงทำให้มีรายได้ต่อหัวของประชากรกว่า 2 แสนบาทต่อปี อยู่ในกลุ่มท็อป 20 ของประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้วางนโยบายที่จะพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชุมพรให้ก้าวสู่เป้าหมายใหม่ของการพัฒนาอย่างน้อยใน 3 ด้าน1.นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นมหานครผลไม้ภาคใต้ เช่นเดียวกับจันทบุรีในภาคตะวันออก จากการส่งออกผลไม้ไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2564 โดยเพียง 11 เดือน ไทยส่งออกผลไม้คิดเป็นมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นปีแรกที่ทุเรียนส่งออกได้เกิน 1 แสนล้านบาทโดยเฉพาะการเปิดเส้นทางขนส่งผลไม้ทางรถไฟสายจีน-ลาว จะเพิ่มการส่งออกผลไม้ได้มากขึ้น ในปีนี้จึงต้องเร่งยกระดับการพัฒนาชุมพรเป็นฮับผลไม้ภาคใต้2.นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นฮับกาแฟโรบัสต้าของประเทศ โดยสร้างแบรนด์สร้างมูลค่ากาแฟโรบัสต้าสู่กาแฟมูลค่าสูงทั้งตลาดในและต่างประเทศ เพราะตลาดกาแฟกำลังขยายตัวเติบโตทั้งในประเทศ ไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาคู่ขนานกับกาแฟอาราบิก้าของภาคเหนือ3.นโยบายพัฒนาชุมพรเป็นประตูท่องเที่ยวเกตเวย์ทะเลใต้ เนื่องจากมีท่าเรือบริการเชื่อมเกาะและหมู่เกาะในอ่าวไทย เช่น เกาะสมุยและหมู่เกาะอ่างทองโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติชุมพร มีเกาะกว่า 40 เกาะ เช่น เกาะทะลุ เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะลังกาจิว ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งไทยต้องเตรียมความพร้อมรองรับโอกาสทันทีที่วิกฤติโควิดคลี่คลาย และนักท่องเที่ยวกลับมาด้วยความพร้อมแทบจะทุกประการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการห้องเย็นครบวงจรขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานส่งออก นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จนสามารถเก็บสต๊อกทุเรียนและผลไม้อื่นๆได้นานถึง 18 เดือน บวกกับงบที่ลงไปกว่า 3 พันล้านบาท แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แบบนี้น่าจะพอเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์.สะ-เล-เต