เผลอแผล็บก็อำลาปีฉลูแล้ว...ปีขาลขานรอรับไม้ต่อ ใครสะบักสะบอมในปีที่ผ่านมาก็ฮึบกันใหม่ ชีวิตจะได้ไฉไล อรุ่มเจ๊าะกรุ้มกริ่มวิบวับๆ ว่าแล้วก็ชวนย้อนข่าวสบายอารมณ์ ทิ้งความเครียด เปิดรับความขำพอกรุบกริบ...อย่างคดี “อยู่ดีไม่ว่าดี” ทำให้ตำรวจไม่ต้องเหนื่อยเหงื่อหยดเสาะหาตัวคนร้าย เพราะเบาะแสสำคัญอาจลอยอยู่ตรงหน้า เช่นที่เมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมา ในสหรัฐอเมริกา ตร.หน้ายุ่งไล่หาที่อยู่ของ “ลอเรน เกรฟส์” ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม อีริค เกรฟส์ ที่ถูกยิงตายหลายเดือนก่อน และโพสต์ประกาศจับในเฟซบุ๊กเพื่อให้พลเมืองดีช่วย “เป็นหูเป็นตา สอดส่อง แจ้งเบาะแส” ไม่นาน ชื่อของ “ลอเรน” ก็ปรากฏในช่อง คอมเมนต์ ด้วยปุจฉาถามหาเงินรางวัล...รุ่งขึ้น “ลอเรน” ก็ถูกรวบตัวคาบ้าน @@@ อีกรายที่ตำรวจไม่ต้องออกแรง ก็หนุ่มวัย 46 ปี นาม “ลี โรซ” ทำเปรี้ยวฉายเดี่ยวไปทุบหน้าต่างร้านแฮริสันส์ บาร์ ในเมืองลิเวอร์พูล แดนผู้ดีมีบิ๊กเบน กะจะกวาดเงินให้เกลี้ยง แต่พอเห็นขวดเหล้าวางเรียงละลานตาเลยดวดซะเมาพับ ฟื้นอีกทีก็โดน ตร.รวบทันที...สภาพพพ @@@ อีกรายเป็นหนุ่มชาวแอลเบ เนีย เจอข้อหายาเสพติด เลยถูกกักบริเวณอยู่แต่ในบ้านที่เมืองกวิโดเนีย มอน เตเชลิโอ นอกกรุงโรม อิตาลี แต่หนุ่มวัย 30 ปีกลับร้องขอตำรวจให้จับตนเข้าซังเตเถอะเพราะไม่ไหวแล้วที่ต้องทนต้องอยู่กับเมียตลอด 24 ชั่วโมง แถมเปิดอกแบบหมดท่าว่ารักไม่หวานเป็นน้ำต้มผัก “ก็ชีวิตในบ้านนั้นช่างเหมือนตกนรกทั้งเป็น งั้นขอรับโทษจำคุกแทนกักบริเวณเถอะ ขอร้องงงง” มาถึง “หาเรื่องใส่ตัว หาเหาใส่หัว” เหตุเกิดในเมืองลินเดา เยอรมนี มีชายคนหนึ่ง สวมเสื้อผ้าชุดลายพรางพกวัตถุทรงคล้ายปืนไรเฟิลวิ่งไปมาบนถนนแห่งหนึ่ง คนเห็นเข้าใจคอไม่ดี หวั่นว่าจะมีเหตุสะเทือนขวัญเลยยกหูแจ้งตำรวจว่าอาจเป็นการก่อการร้าย งานนี้ยกโขยงมาเพียบทั้งตำรวจท้องที่และตำรวจรัฐ แล้วก็พบว่าตัวต้นเหตุเป็นโจ๋วัย 15 ปี ทำพิเรนทร์พกปืนของเล่นตัวต่อเลโก้... เมื่ออยู่ดีไม่ว่าดี ตำรวจเลยตั้งข้อหาฐานป่วนเมือง @@@ ความแหกกฎหาเรื่องใส่ตัวที่เกิดขึ้นบ๊อย บ่อย ก็ต้องที่ช่องจราจร HOV ของหลายเมืองในอเมริกา เลนนี้ทำขึ้นเพื่อลดความแออัดของการจราจร ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เลยไฟเขียวให้วิ่งเฉพาะรถที่มีคนขับรวมกับผู้โดยสารตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แต่พวกข้ามาคนเดียวนี่สิกะว่าตบตาตำรวจ ซึ่งอุบายฮิตๆก็เช่นใช้ตุ๊กตายางมานั่งคู่คนขับ หรือในเท็กซัสก็เอาโครงกระดูกมานั่งเบาะหน้า สวมหมวก คาดเข็มขัดนิรภัย ที่ลอง ไอส์แลนด์ ก็มีอุบายดึงที่นั่งให้ตรงสวมเสื้อ แจ็กเกตเข้าไปวางหมวกที่พนักพิงศีรษะ อุบายต่างๆนานากะว่ารอดแน่ๆ สรุปว่าตำรวจทันเกมเจอใบสั่ง โดนปรับอาน @@@ ส่วนเรื่องความสามารถทางสรีระแบบชวนตะลึง คงไม่มีใครเทียบรัศมีความกว้างของปาก “ซาแมนธา แรมส์ เดลล์” ดาราติ๊กต่อก วัย 31 ปี ชาวเมืองเซาท์ นอร์วอล์ก รัฐคอนเนกติกัต ในแดนพญาอินทรีได้ เรียกว่าเลียนแบบยากส์ส์ กับแชมป์สถิติโลกบันทึกให้เป็น “ผู้หญิงปากกว้างที่สุดในโลก” วัดด้วยไม้บรรทัดแล้ว 2.56 นิ้ว เทียบโชว์แทบเห็นลูกกระเดือกคู่กับ มร.ไอแซค จอห์นสัน รายนั้น แชมป์ฝ่ายชายวัดจากซ้ายไปขวาได้ 4 นิ้ว...พวกเธอมันแน่!!! มาถึงเรื่องรักๆใคร่ๆ หัวใจสีชมพู ยุคนี้ความรักแบบไร้ขอบเขตปรากฏมากขึ้นถึงขั้นวิวาห์กับสิ่งของ โครงสร้าง หรือสถานที่แปลกๆก็มี เช่น หนุ่มอิเหนาที่หาคู่ชีวิตด้วยคุณสมบัติ 3 จ. (ขาว) จั๊วะ, (น่า) เจี๊ยะ และ (ไม่) จู้จี้ เลยได้ “หม้อหุงข้าวสีขาว” ที่หุงข้าวขึ้นหม้อได้ดี ไม่มีปากเสียง แค่กินไฟเล็กน้อย ตกลงปลงใจผูกขวัญจดทะเบียนสมรสจริงจังกับหม้อหุงข้าว แต่ไม่นานก็หย่าร้างเพราะเจ้าตัวหุงข้าวไม่เป็น... รักเร็ว-เลิกเร็ว ไม่ทันหม้อข้าวดำของจริง @@@ ขณะอีกรายเป็นเศรษฐินีทำธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้านาม “ชารอน เทนด์เลอร์” เกิดรักแรกพบกับ “โลมา” อายุ 39 ปี สาวเจ้าก็ตั้งชื่อโลมาว่า “ซินดี้” ทั้งๆที่เป็นเพศผู้...ก็เอาที่สบายใจ ซึ่งจะว่าเป็นรักบันลือโลกก็ไม่ผิดนัก นอกจากจะต่างสายพันธุ์แล้ว ระยะทางก็มิอาจกั้นรัก ฝ่ายหญิงนั่งเครื่องบินไปหาโลมาซินดี้อยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าพิธีครองคู่ให้เป็นเรื่องเป็นราว จัดงานมีสักขีพยานครบที่เมือง ไอแลต ในอิสราเอล แต่ชีวิตคู่อยู่ได้ไม่นาน โลมาฝ่ายสามีก็มีอันมรณาไปด้วยปัญหาในช่องท้อง มนุษย์เมียเลยตกพุ่มม่ายในวัย 26 เธอยังประกาศว่าจะไม่รักโลมาตัวไหนแบบนี้อีกแล้ว @@@ เล่าถึงสัตว์น้ำปุ๊บคงตกหล่นเจ้า “ปลาหัวแกะ” ที่ว่ายอยู่แถวๆเมือง แนกส์เฮด รัฐนอร์ท แคโรไลนา สหรัฐฯ ไปไม่ได้ เพราะดั๊นหน้าตาประหลาดกว่าปลาหัวแกะทั่วไป ก็ตอนอ้าปากนี่แหละ โอ้โฮ! คนที่จับได้แทบผงะกับแผงฟันที่เหมือนกับฟันมนุษย์ชวนให้ขนลุก อย่างไรก็ตาม คน ที่จับได้ไม่ปล่อยไว้ดูเล่นนาน สุดท้ายเจ้าปลาต้องตายในตอนจบ กลายเป็นเมนูจานเด็ดไป โถ...สงสาร @@@ สัตว์อื่นๆก็มีเรื่องราวเช่นกัน อย่างงูเคราะห์ร้ายที่เมืองจัยปูร์ ของอินเดีย เลื้อยไปกัดชายคนหนึ่งเข้า ชายดังกล่าวเลยแก้แค้นกัดงูกลับจนงูตายไปเลย หรือการวิวาทของ “นกอินทรีหัวขาว” 2 ตัวที่เมืองพลีมัธ รัฐมินเนโซตา ในสหรัฐฯ ถึงขั้นเรียกตำรวจมาเคลียร์ ตำรวจบอกประทับใจเหลือเกินกับคดีนี้ แต่การปราบที่ละมุนละม่อมสุดต้องผายมือไปที่ญี่ปุ่น เมื่อตอนเหนือของประเทศประสบภัย “หมี” ออกอาละวาด ทางการจังหวัดอิวาเตะแก้ปัญหาด้วยการจ้างนักร้องนักแต่งเพลงมาทำเพลงเพื่อใช้ปรามหมี และเตือนชาวเมือง ในสไตล์ร็อก แอนด์ โรลล์ เพลงนี้เปิดกรอกหูนานเป็นเดือน...หมีกล้าย่างกรายมาก็ให้รู้ไป! ปิดท้ายด้วยเรื่องของคนดวงดี ชื่นมื่นกันถ้วนหน้าสำหรับพนักงานร้านขนมอบเทิร์นโอเวอร์ ที่รัฐเนบราสกา ในสหรัฐฯ เจอลูกค้าสายเปย์ดึงดันให้ “ทิป 2,000 ดอลลาร์” หรือกว่า 67,000 บาท ทั้งๆที่เจ้าตัวซื้อขนมไปแค่ 5 ดอลลาร์ ตกราวๆ 168 บาทเอง...น้ำใจงาม @@@ ขณะที่อีกรายเป็นชายชาวเกาะเชจูของเกาหลีใต้สั่งซื้อตู้แช่กิมจิมือสองออนไลน์ แต่โป๊ะเชะเจอเงินวอนเป็นปึกๆ คำนวณเป็นเงินไทยก็ราว 4.3 ล้านบาท ดีใจก็จริง แต่ก็ต้องแจ้งโปลิศก่อน ถ้าหาเจ้าของเงินตัวจริงไม่ได้ก็แฮปปี้ แต่ถ้ากลายเป็นเงินโจรละก็...จบปึ้ง!ทีมข่าวต่างประเทศ