ช่วงปลายเดือน พ.ย.-ธ.ค.ของทุกปี คนภาคเหนือจะได้รับประทานอาหารที่เลิศรส ถือเป็นราชาประเภทผักพื้นบ้านคือ “งวม” โดยเฉพาะ จ.แพร่ มีการปลูกงวมไม่น้อยไปกว่าจังหวัดอื่นๆเกษตรกรมีการปลูกงวมตามเชิงเขาเพราะจะขึ้นในพื้นที่อากาศเย็น พบปลูกมากที่บ้านแม่ลัวเหนือ หมู่ 4 บ้านแม่ลัวใต้ หมู่ 6 บริเวณป่าผาตึม หมู่ 8 ต.ป่าแดง และบ้านน้ำจ้อม หมู่ 8 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ มีผลผลิตออกสู่ตลาดก่อนแหล่งอื่นสำหรับงวมเป็นผักพื้นบ้านทางภาคเหนือ มีลักษณะคล้ายฝักของหางนกยูงบ้าน หรือฝักกระถิน แต่อาจจะแบนและบางกว่ามาก ลำต้น เป็นพรรณไม้เถาเลื้อยพาดพันต้นไม้อื่น มีเนื้อไม้แข็ง มีหนามแหลมโค้งเป็นคู่ทั่วทั้งลำต้นจะออกฝักเพียงปีละ 1 ครั้งในฤดูหนาวเท่านั้น เพราะเป็นพืชพื้นเมืองที่ต้องการอากาศหนาวเย็น รสชาติผักจะออกเปรี้ยวและมีฝาดแซมเล็กน้อย ปัจจุบันหากินได้ยากชาวบ้านพื้นถิ่นภาคเหนือนำมาประกอบอาหาร ถือว่าเป็นอาหารที่มีความอร่อย สรรพคุณเป็นพืชสมุนไพรกินแล้วแข็งแรงเป็นยาระบายอ่อนๆ มักนำฝักอ่อนมาประกอบอาหาร เช่น ยำงวม ใส่คู่กับเนื้อปลา หมูสับ หรือกุ้งแห้ง จากนั้นปรุงรสให้อร่อย หรือจะนำไปแกงส้มก็อร่อยรสชาติอมเปรี้ยว เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างมากในช่วงที่ออกฝักต้นฤดูจะมีราคาแพงสอบถาม นายวิลูน ฟั้นเฟื่อย เกษตรกรผู้ปลูกงวม หมู่ 8 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ เปิดเผยว่า มีพื้นที่ในการทำสวนงวมประมาณไร่เศษ เดิมทำสวนเมี่ยงแต่ไม่ค่อยได้ผล หันมาปลูกงวมในพื้นที่บ้านน้ำจ้อม หมู่ 8 ต.ช่อแฮการปลูกไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากนัก ถึงเวลาออกดอกและออกผลมีรายได้ปีละ 20,000 บาท แต่ต้องเร่งเก็บฝักงวมแข่งกับเวลา เพราะงวมจะได้ราคาสูงในช่วงต้นฤดู ขายกิโลกรัมละ 350 บาทใครสนใจต้องการมาลิ้มลองผักงวม สามารถแวะมาซื้อมาชิมได้เพราะเป็นอาหารเลิศรสหากินยาก หากพลาดแล้วต้องรอถึงปีหน้าเลยทีเดียว.มณี ม่วงทอง