นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยสนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสาธารณสุข พืชกัญชาที่พบมีหลากหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีสัดส่วนสารสำคัญ ได้แก่ สาร THC และ CBD จัดอยู่ในกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ที่แตกต่างกันสาร THC มีคุณสมบัติทางยา เช่น ฤทธิ์แก้ปวด โดยเฉพาะปวดจากโรคทางระบบประสาท กระตุ้นความอยากอาหารและลดอาการคลื่นไส้จากการใช้เคมีบำบัด ส่วนสาร CBD มีฤทธิ์บรรเทาอาการลมชัก ลดอาการวิตกกังวลช่วยให้นอนหลับได้ดีนพ.ศุภกิจกล่าวต่อว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยสมุนไพร ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนากัญชามาอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม โดยขึ้นทะเบียนกัญชาพันธุ์ไทย 4 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์หางเสือสกลนครทีที 1 พันธุ์ตะนาวศรีก้านขาวดับเบิลยูเอ 1 (มีปริมาณ THC สูง) พันธุ์หางกระรอกภูพานเอสที 1 (THC และ CBD ใกล้เคียงกัน) และพันธุ์ตะนาวศรีก้านแดงอาร์ดี 1 (มีปริมาณ CBD สูง) โดยได้นำสารสกัดช่อดอกกัญชาพันธุ์ไทยมาทำการทดสอบฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งเพาะเลี้ยง 7 ชนิด ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งไต มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งสมอง และมะเร็งตับอ่อน ด้วยวิธีของไหลวิกฤติยิ่งยวด (Supercritical Fluid Extraction) ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถสกัดสารแคนนาบินอยด์ในกัญชาได้ดี ผลการทดลองพบว่าสารสกัดกัญชาที่มี THC 1 ส่วน ต่อ CBD 6 ส่วน มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านม (MCF-7) เซลล์มะเร็งไต (A-498) และเซลล์มะเร็งตับ (HepG2) ได้ดี สารสกัดกัญชาที่มี THC 10 ส่วน ต่อ CBD 1 ส่วน มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งปอด (A-549) เซลล์มะเร็งลำไส้ (Caco-2) เซลล์มะเร็งสมอง (A-172) และมะเร็งตับอ่อน (PANC-1) ได้ดี เมื่อเทียบกับยาด็อกโซรูบิซิน (doxorubicin) ส่วนสารสกัดที่มีสัดส่วน THC 2 ส่วนต่อ CBD 1 ส่วน มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งแบบไม่มีความจำเพาะ ทั้งนี้ยังพบว่าสารสกัดดังกล่าวยังมีฤทธิ์ที่ดีในการสมานรอยแผลในเซลล์ปอดเพาะเลี้ยงในหลอดทดลอง“นอกจากนี้ยังได้วิจัยด้านพิษวิทยาในหลอดทดลองพบว่า สารสกัดกัญชาไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ในเชื้อแบคทีเรีย แต่พบว่าสารสกัดกัญชามีความเป็นพิษต่อเซลล์ไตเพาะเลี้ยงสูงที่สุด รองลงมาเป็นเซลล์ตับเพาะเลี้ยง และเซลล์ปอดเพาะเลี้ยง ตามลำดับ ทั้งนี้ข้อมูลวิจัยดังกล่าวได้ตีพิมพ์ในวารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว และมีแผนที่จะทดสอบความปลอดภัยของสารสกัดกัญชาในสัตว์ทดลอง หรือระดับคลินิกต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจถึงประสิทธิผลและปลอดภัยในการสนับสนุนนำกัญชามาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าว.