ปฏิเสธไม่ได้เลยวิกฤติโควิด-19 กลายเป็นส่วนสำคัญช่วยหนุนกระแสให้ไม้ประดับ โดยเฉพาะไม้ด่างนานาชนิดฮอตฮิตติดลมบน จนบางครั้งตั้งราคากันจนดูเว่อร์ เสมือนปั่นกระแส ค้านกับสายตาใครหลายคน แต่กับบางคนกลับมองเป็นโอกาสเปลี่ยนเป็นเม็ดเงิน แทนที่จะตั้งแง่ยึดติดอยู่กับคำว่า “ปั่นกระแส” “ตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยไม่ได้อยากเป็นลูกน้องใคร จึงมาจับอาชีพเกษตรกรช่วยพ่อแม่ปลูกเฟิร์นและพลูด่างรวมถึงไม้ประดับขาย กระทั่งโควิด-19 ธุรกิจแทบทุกอย่างชะงักงัน แม้จะพอขายได้บ้างแต่ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน ราวเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มองว่ากระแสไม้ด่าง โดยเฉพาะกล้วยเริ่มมาแรง ตอนแรกเราก็มองว่าเป็นการปั่นกระแส แต่ถ้ามองจากอีกมุมก็เป็นโอกาสในการหารายได้หากรีบชิงลงมือทำก่อน เลยตัดสินใจควักเงินก้อนแรก 180,000 บาท ซื้อหน่อกล้วยแดงอินโดมาปลูก 1 หน่อ พร้อมกับศึกษาหาความรู้จากสื่อโซเชียล จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงไม้ด่างมาถึงทุกวันนี้”กชสร เนียมเนตร์ เกษตรกรหญิงเจ้าของสวนเนียมเนตร์ไม้ด่าง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บอกถึงที่มาของการมองเห็นโอกาสท่ามกลางวิกฤติ จนเจียดที่ดินแค่ 1 งานเศษ ปลูกไม้ด่างนานาชนิดหลังซื้อกล้วยแดงอินโดหน่อแรกมาไม่กี่เดือน ต้นก็เริ่มแทงหน่อออกมาหลายหน่อ เจ้าของหน่อกล้วยที่ไปซื้อมาขอซื้อคืนในราคาต้นพร้อมหน่อ 3.8 ล้านบาท เมื่อเริ่มมองเห็นเม็ดเงิน จึงนำกำไรที่ได้มาต่อยอดซื้อไม้ด่างชนิดต่างๆมาสะสม เพาะขยายพันธุ์ มีตั้งแต่...กล้วยแดงอินโด กล้วยฟลอริดาด่าง กล้วยตานีด่าง หูช้างด่าง บอนกระดาษด่าง ฯลฯ สำหรับวิธีการเพาะขยายพันธุ์ไม้ด่าง กชสร แนะ...ส่วนใหญ่นิยมการแยกหน่อ เพราะทำได้เองไม่ยาก แต่มีเคล็ดลับที่ต้องดูหน่อที่ใหญ่สมบูรณ์มีความสูงขนาด 30 ซม.ขึ้นไป จากนั้นให้ฉีดน้ำไล่ที่โคนต้นให้เห็นเหง้าหน่อ แล้วใช้มีดคมสะกิดแค่ครั้งเดียวให้หน่อขาดจากต้นแม่เพื่อไม่ให้หน่อและต้นแม่ช้ำ ต่อมาให้ใช้ปูนแดงทาบริเวณแผลที่ตัดออกจากันทั้งต้นแม่และหน่อ แล้วทายากันเชื้อราซ้ำจากนั้นนำหน่อที่แยกมาใส่กระถางดินใบก้ามปูกรณีเป็นกล้วยด่าง ส่วนไม้ด่างชนิดอื่นให้ใช้กาบมะพร้าวแช่น้ำ 10 วัน เป็นวัสดุปลูกนำหน่อที่ปลูกในกระถางเข้าตู้อบต้นไม้ หรือหากไม่มีตู้อบให้ใช้ตะกร้าที่หาซื้อได้ทั่วไป แล้วเอากระถางวางในตะกร้า จากนั้นใช้ถุงพลาสติกใบใหญ่ใส่คลุมตะกร้า ปิดปากถุงให้สนิทเพื่อลดการคายน้ำ และรักษาอุณหภูมิให้คงที่ ทิ้งไว้ในที่ร่ม 2 สัปดาห์ จนรากเดินได้สะดวก“บรรดาไม้ด่างทั้งหลายที่หลายคนมองว่าปั่นกระแส ไม่นานราคาคงร่วง แต่ตัวเองกลับมองว่า ไม้ด่างส่วนมากเป็นตลาดบน ราคาขึ้นกับความ พอใจของคนซื้อคนขาย คนมีเงินมักซื้อไว้ประดับบารมี เป็นสิริมงคล ในอนาคตกระแสอาจจะแผ่วได้บ้าง แต่ก็ไม่น่ามากนัก เพราะไม่ว่าอย่างไรคนที่ซื้อไปต้นละเป็นล้าน คงไม่มีใครอยากขายราคาต่ำ อีกอย่างไม้ด่างเป็นไม้ที่มีพันธุกรรมผิด จึงค่อนข้างเลี้ยงยาก โตช้า ให้หน่อน้อย แถมยังต้องมาลุ้นกันอีกว่าหน่อที่ออกมาจะเหมือนต้นแม่หรือเปล่า ที่สำคัญมีตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ แต่คนทำเป็นจริงเป็นจังมีไม่มาก ฉะนั้นถ้ากระแสจะซบเซาคงไม่ใช่ในเร็ววันนี้”และท่ามกลางกระแสเห่อแห่และไม่บ้าตามที่เกิดขึ้นในสังคม...ไม่น่าเชื่อว่า ชั่วเวลาไม่ถึงครึ่งปี ไม้ด่างหลากหลายชนิดช่วยสร้างรายได้ในช่วงวิกฤติโควิดให้สวนแห่งนี้ไปแล้วไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท...สนใจติดต่อกันไปได้ที่ 08–3077–8468.กรวัฒน์ วีนิล