น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 วันที่ 1 พ.ย.ว่า ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ตนจะชี้แจงความพร้อมการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ปกครอง สถานศึกษา และนักเรียนได้รับทราบว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะเปิดเรียนภายใต้มาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพ ซึ่งจะมีมาตรการในการเปิดเรียนเป็นแนวปฏิบัติอย่างเป็นทางการ เนื่องจากขณะนี้เรายังมีความซับซ้อนของพื้นที่ตามข้อกำหนดของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (ศบค.) หรือโควิด-19 ที่แบ่งโซนสีตามความรุนแรงการแพร่ระบาดของโรค ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการการเปิดเรียนเสนอให้ ศบค.พิจารณาร่วมด้วย แต่สิ่งที่แน่นอนที่สุดของการเปิดเรียนคือ ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนจะต้องรับวัคซีนให้ถึง 85% ทั้งนี้ ศธ.ได้จัดทำตัวเลขโรงเรียนที่สามารถเปิดเรียนได้แล้วว่ามีอยู่จำนวนกี่แห่งบ้าง ยืนยันวันที่ 1 พ.ย.มีการเปิดเรียนแน่นอน แต่เปิดรูปแบบ On-Site ได้กี่เปอร์เซ็นต์นั้นจะมีมาตรการกำหนดชัดเจนด้าน ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ศธ.จะประกาศเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย. 5 รูปแบบ ได้แก่ การเรียนแบบ On-site เป็นการเดินทางมาเรียนที่โรงเรียน ซึ่งเหมาะสำหรับโรงเรียนที่มีปริมาณนักเรียนน้อย จัดพื้นที่แบบเว้นระยะห่าง และเข้มงวดการสวมหน้ากากอนามัยตามมาตรการด้านสาธารณสุข การเรียนแบบ On-Air ผ่านระบบมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ DLTV การเรียนแบบ On-Line ครูผู้สอนทำการสอนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนแบบ On-demand ผ่านระบบแอปพลิเคชัน และการเรียนแบบ On-hand ครูผู้สอนเดินทางไปแจกเอกสารใบงานให้นักเรียนที่บ้าน ทั้งนี้หากโรงเรียนใดต้องการเปิดเรียนในรูปแบบ On-site จะต้องทำแบบประเมินความพร้อมโรงเรียน 44 ข้อของ Thai Stop Covid โซนพื้นที่การแพร่ระบาดของโรค และปริมาณการฉีดวัคซีนของครูและนักเรียน จากนั้นโรงเรียนต้องทำเรื่องเสนอคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ส่วนโรงเรียนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเปิดเรียนในรูปแบบปกติได้กี่แห่งนั้นได้ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สำรวจและส่งข้อมูลให้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาแล้ว.