โควิด-19 ส่อเค้าจะเบา น้ำท่วมส่อเค้าจะแรง เรือจมแม่น้ำที่ตำบลสำเภาล่ม หน้าวัดพนัญเชิง อยุธยา ศพคนเรือลำแรก ลอยไกลมาถึงกรุงเทพฯ ศพสองยังไม่โผล่ เรือก็ล่มซ้ำจุดเดิมเป็นลำที่สองผมนึกถึงเพลง พ่อม่ายตามเมีย พร ภิรมย์ ร้อง มีเสียงซออู้คลอท่อนหนึ่ง ยิ่งฟังยิ่งเศร้าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกชำแรกเคราะห์ เอาเหล็กเจาะนาวาเสียสาสม ชวนน้องพี่ที่ร่วมมาพากันจม สำเภาล่มอับปางจึงอ้างอิง...เจ้าทิ้งพี่ดังถูกผีสร้อยดอกหมาก...?“สร้อยดอกหมาก” นางเอกของเรื่อง...ใคร? ผู้ใหญ่ที่เล่าเรื่องได้ ก็ต้องเริ่มด้วยเรื่อง พระเจ้าสายน้ำผึ้ง“กาญจนาคพันธุ์” เล่าไว้ในคอคิดขอเขียนว่า ไทยกับจีนสมัยตำนาน...กรุงจีนไม่มีที่จะได้ธิดาไทย เช่นเคยมารักนางยมโดย ธิดาตาม่องล่าย ก็ไม่ได้ หรือมารักนางละเวง ก็ไม่ได้ ขณะพระเจ้ากรุงไทย มักได้ราชธิดากรุงจีนบ่อยๆพระร่วงอรุณกุมารสวรรคโลก ได้นางพสุจเทวีราชธิดาเจ้ากรุงจีน สมัยราชวงศ์ถัง ก็เคยยกพระราชธิดาให้เจ้าไทย แต่เรื่องเล่าที่รู้กันมาก ก็คือเรื่องพระเจ้าสายน้ำผึ้งพระเจ้ากรุงจีนได้บุตรบุญธรรมเกิดในจั่นหมาก ตั้งชื่อจีนแปลไทยว่านางสร้อยดอกหมากครั้นนางโตเป็นสาว เจ้ากรุงจีนให้โหรมาดูดวงชะตา ว่าคู่ควรกษัตริย์เมืองใด โหรกราบทูลว่ามีแต่พระเจ้าสายน้ำผึ้งกษัตริย์ไทยเท่านั้น เจ้ากรุงจีนส่งสาส์นมาให้เจ้าสายน้ำผึ้ง หาเรือไปรับเจ้าสาวจัดพิธีตบแต่งเรียบร้อย ก็ประทานเรือสำเภา 5 ลำ บริวาร 500 ให้แห่เจ้าสาวกลับขบวนเรือมาถึงปากน้ำแม่เบี้ย (อยู่ปากคลองสวนพลู ใต้บางกะจะ) ขบวนเรือหยุดทอดสมอ พระเจ้าสายน้ำผึ้งแยกเสด็จเข้าวัง เตรียมตำหนักต้อนรับเจ้าสาว เสร็จแล้วก็สั่งคุณท้าวเถ้าแก่ นำเรือพระที่นั่งไปรับนาง“แต่ไหนแต่ไร ก็มาด้วยกัน พอมาถึงวังแล้วไฉนไม่มารับ ด้วยตัวเอง” เป็นถึงธิดาเจ้ากรุงจีน ทั้งยังสวยเลิศฟ้ามาดิน นางสร้อยดอกหมากออกท่างอน “ถ้าไม่เสด็จมารับเอง ก็ไม่ไป”คุณท้าวนำความกลับไปกราบทูล พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ตรัสสัพยอก “มาถึงแล้ว จะอยู่ที่นั่น ก็ตามเถิด”ก็แค่พูดเล่นๆ แต่กำแพงมีหูประตูมีช่อง คำตรัสเข้าหู วันรุ่งขึ้นเมื่อพระเจ้าสายน้ำผึ้ง เสด็จไปรับถึงเรือ ไม่ทันได้พูดจา นางสร้อยดอกหมาก ก็กลั้นใจตายงานรื่นเริงบันเทิงเปลี่ยนเป็นเรื่องเศร้า กระบวนแห่เจ้าสาวก็กลายเป็นขบวนแห่งานศพ ขึ้นไปถวายพระเพลิงที่แหลมบางกะจะ ตรงที่ถวายพระเพลิง พระเจ้าสายน้ำผึ้งโปรดให้สร้างเป็นวัดให้นามว่า “วัดพระเจ้าพระนางเชิง”“กาญจนาคพันธุ์” จบเรื่องนี้ว่า ต่อมาใครช่างมาแผลงพงศาวดารเขียนเป็น วัดพนัญเชิง อุตริเสียจริงเชียวเรื่องเล่าสมัยตำนาน...ก็มักเป็นเช่นนี้ ชื่อวัดยังพลิกแพลงเปลี่ยนได้ง่ายๆเรื่องเล่านางสร้อยดอกหมาก แสนงอนกลั้นใจตาย ชาวบ้านเล่าลือต่อๆกันมา โลดโผนเป็น เอาเหล็กเจาะนาวาพากันจม สำเภาล่มอับปาง...ตายไปด้วยกันทั้งเจ้านายและบริวารแถวๆหน้าวัดพนัญเชิงเป็นชื่อตำบลสำเภาล่ม เรือล่มบ่อยๆ เพราะอยู่ตรงคุ้งน้ำ จุดที่สายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากับน้ำในแม่น้ำป่าสักไหลแรงมาปะทะกันเรื่องจริงเป็นเช่นนี้ แต่เรื่องที่ชาวบ้านเล่าต่อๆกันมา เรือที่ล่มๆ ไปเพราะวิญญาณนางสร้อยดอกหมากเฮี้ยน ใครไม่เชื่อก็ดูเอา...ทั้งๆที่รู้เรือลำแรกล่มแล้ว ระวังกันนักหนาแล้ว เรือลำสองยังล่มได้อีกไหนๆ!ว่าไงนะ ข่าวเขาว่า หมาสามตัวในเรือล่มลำแรก รอดมาได้ตัวหนึ่ง ชื่ออะไร? ผมฟังไม่ถนัด.กิเลน ประลองเชิง