ไวทันใจตำรวจไซเบอร์ตามรวบ 2 สาวร่วมแก๊งหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้ “น้องก้อง” จนเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตอย่างน่าสลด เป็นคนรับจ้างเปิดบัญชีที่รับโอนเงินจากเหยื่อ ส่วนตัวการใหญ่เป็นสาววัย 19 ยังจับกุมไม่ได้ ค้นบ้านหนุ่มยึดเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู 2 คัน ของแบรนด์เนมเพียบ ผบช.สอท.เผยใช้ชีวิตหรูหราจากเงินที่โกงผู้อื่น พ่อแม่น้องก้องขอบคุณคืนความเป็นธรรมให้น้อง เตรียมแก้ปัญหาการเปิด “บัญชีม้า” ให้แก๊งตุ๋นออนไลน์ ด้าน กสทช.เปิดสายด่วน 1200 รับร้องเรียนถูกมิจฉาชีพโกงผ่าน SMS และโทร.ตรงหลอกเอาข้อมูลเหยื่อไปใช้ตำรวจไซเบอร์จับโชว์แก๊งหลอกขายโทรศัพท์มือถือ ชนวนเหตุให้ “น้องก้อง” เส้นเลือดในสมองแตกตายรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หมู่บ้าน เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 และ พ.ต.อ.ศุภชัย ชัยสุวรรณ ผกก.กก.1 สอท.4ร่วมแถลงผลการจับกุม น.ส.นฤมล ชำนาญ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 369/5 หมู่ 4 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และ น.ส.สายน้ำผึ้ง ชนะมาร อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 6 ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลบิดเบือนหรือปลอมก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนพล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. เปิดเผยว่า จากกรณี “น้องก้อง” เด็กชายวัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง บ้านอยู่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 ทางอินสตาแกรม Phonebymint ที่มีผู้ติดตามมากถึง 60,000 คน ในราคา 5,000 บาท เพื่อใช้ในการเรียนออนไลน์ และได้จ่ายเงินชำระราคาไปหมดแล้วแต่ผู้ต้องหากลับไม่ส่งของให้ ทำให้น้องก้องเกิดความเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นเรื่องที่น่ารันทดหดหู่ใจและสะเทือนใจในสังคมเป็นอย่างมาก สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย พบผู้ต้องหาทั้งสองเกี่ยวข้องเป็นชื่อเจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้เสียหาย ขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนติดตามไปจับผู้ต้องหาได้ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และเคหะบางบอน กทม.ตามลำดับ ผบช.สอท.กล่าวต่อว่า สอบสวนผู้ต้องหาให้การ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ตัวการสำคัญในการก่อเหตุ ซึ่งรู้จักกันว่าจ้างในราคา 2,500-4,000 บาทให้เปิดบัญชีธนาคาร แล้วผูกบัญชีกับโทรศัพท์มือถือ มอบบัญชีให้ น.ส.พิยดาไป ตำรวจตรวจค้นที่บ้านพักแฟนหนุ่มของ น.ส.พิยดา ย่านราชพฤกษ์ อ.เมืองนนทบุรี ยึดแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ตู้เซฟนิรภัย กระเป๋าแบรนด์เนม ซิมการ์ดโทรศัพท์ และรถยนต์ BMW จำนวน 2 คัน ไว้ตรวจสอบ แต่ไม่พบตัว น.ส.พิยดา โดย น.ส.พิยดามีพฤติกรรมชอบใช้ของแบรนด์เนมใช้ชีวิตหรูหรา เงินส่วนใหญ่ที่ได้มาก็มาจากการฉ้อโกงผู้อื่น และยังพบว่า น.ส.พิยดาเคยต้องคดีความผิดในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.คลองหลวง กำลังขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป อีกทั้งพนักงานสอบสวนจะมีบันทึกไปยังเลขาธิการ ปปง. ให้พิจารณาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อติดตามยึดทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหารายนี้ผู้เสียหายสาววัย 18 ปี เป็นนักศึกษาสาวชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตกเป็นเหยื่อแก๊งหลอกขายโทรศัพท์แก๊งนี้กล่าวว่า มีความจำเป็นจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือในการเรียนออนไลน์ในช่วงนี้หาข้อมูลและไปพบร้านของผู้ต้องหาในอินสตาแกรม มีผู้ติดตามจำนวนมากดูน่าเชื่อถือ ติดต่อซื้อไอโฟน 11 ราคา 11,000 บาท โอนเงินไปก็ไม่ได้ของและติดต่อไม่ได้ ทราบทันทีว่าถูกหลอก ดีใจมากที่จับคนร้ายได้ ตนรวบรวมรายชื่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งนี้อีก 37 คนส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยเรียนมามอบให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดี ทุกคนก็หวังจะได้เงินคืนด้านนายทุน ลุงหลู่ และนางแฝง แสงทองคำ พ่อแม่น้องก้อง กล่าวว่า ขอบคุณตำรวจที่ให้ความสำคัญเร่งรัดจับกุมคนที่โกงลูกชายได้ในเวลารวดเร็ว ดีใจที่ลูกชายได้รับความยุติธรรม ขอให้คนร้ายได้รับโทษในสิ่งที่ตัวเองทำไว้ และฝากเรื่องนี้ให้เป็นบทเรียนกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ยังมีลูกอยู่ในวัยเรียนพร้อมกันนี้ พล.ต.ท.กรไชย ได้แถลงผลจับกุม น.ส.สุภาพ วงศ์จันทร์ อายุ 45 ปี ฐานฉ้อโกงประชาชน อ้างเป็นพนักงานไปรษณีย์ หลอกลวงจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ราคาถูก ผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อ “ตู้เย็นราคาถูก อนุมัติไว ส่งฟรีทั่วไทย” โดยจัดโปรโมชันซื้อ 2 แถม 1 และหากซื้อสินค้าครบ 30,000 บาท จะได้รับเครื่องปรับอากาศติดตั้งฟรี มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เมื่อช่วงเดือน ส.ค. ได้รับการว่าจ้างจากหญิงไทยไม่ทราบชื่อ ให้เปิดบัญชีธนาคาร 2,500 บาท โดยปฏิเสธไม่ใช่เป็นผู้เปิด Facebook หลอกลวงเป็นเพียงเปิดรับโอนบัญชีเท่านั้นพล.ต.ท.กรไชยกล่าวอีกว่าการหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์มีจำนวนมาก มีความเชื่อมโยงว่าเป็นคนเปิดบัญชี หรือที่เรียกว่าบัญชีม้า ตำรวจไซเบอร์จะดำเนินการเร่งจับบัญชีม้า และขอฝากเตือนไปยังกลุ่มบุคคลที่เปิดบัญชีม้าว่า จะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ในเมื่อระบุตัวตนไปแล้ว หากถูกจับกุมก็ถือว่ามีความผิด เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 หารือร่วมกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อวางแนวทางในส่วนของบัญชีที่มีการใช้ในการซื้อขายออนไลน์ อาจมีการระบุต่อท้ายบัญชีว่า “เพื่อการซื้อขายสินค้าออนไลน์” เพื่อยืนยันตัวบุคคลของผู้ขาย และตำรวจเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นวันเดียวกัน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า หลังจากที่ได้ร่วมกับโอเปอเรเตอร์ทุกราย ได้แก่ เอไอเอส ทรู NT และ 3BB แก้ไขปัญหา SMS หลอกลวง ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. โดยให้โอเปอเรเตอร์บล็อก SMS ที่มีเนื้อหาชัดเจนว่าเป็นการหลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจารทันทีนั้น พบว่าปัญหาเรื่อง SMS หลอกลวง เว็บพนันออนไลน์ หรือลามกอนาจารลดลง แต่พวกมิจฉาชีพได้เปลี่ยนวิธีจากการใช้ SMS เป็นการโทร.เข้าโทรศัพท์มือถือของประชาชนโดยตรงเพื่อหลอกลวงแทน โดยเนื้อหาที่มิจฉาชีพใช้เป็นข้อความ เช่น อ้างว่าโทร.มาจากหน่วยงานภาครัฐ บอกว่าประชาชนที่รับสายได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล 2,000 บาท แล้วขอข้อมูลเพื่อประกอบการรับเงินช่วยเหลือ หรือรัฐบาลประเมินแล้วคุณมีสิทธิได้รับเงินกู้ 200,000 บาท หรือโทร.ชวนเล่นพนัน เป็นต้น“การที่มิจฉาชีพเปลี่ยนมาใช้วิธีการโทรศัพท์เพื่อหลอกลวงประชาชนโดยตรงนั้น สามารถตรวจสอบความผิดได้ชัดเจน เนื่องจากมีการลงทะเบียนเบอร์มือถือเอาไว้ว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์ ใครถูกหลอกลวงในกรณีนี้ สามารถร้องเรียนมาได้ที่เบอร์ 1200 (โทร.ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) หรือหากมีหลักฐานคลิปเสียงที่โทร.เข้ามายิ่งดี” ส่วนปัญหา SMS หลอกลวงนั้น แม้ลดลงแล้วก็ยังต้องระมัดระวัง อย่ากดลิงก์ที่มากับ SMS ที่มีข้อความหลอกลวง อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลสำคัญ ขอให้ตรวจสอบที่มาของ SMS หรือต้นสายของโทรศัพท์ที่โทร.เข้ามาอ้างว่าเป็นหน่วยงานของรัฐก่อน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้ ทำให้สูญเสียทรัพย์