แหมสั่งเก่ง...ขยันสร้างความแตกแยก!! ทั้งๆที่ประกาศชัดไม่ต้องการบีบคั้นให้ใครเลือกข้างว่าจะฝักใฝ่อเมริกาหรือจีน แต่เมื่อได้ฤกษ์ดีที่ “กมลา แฮร์ริส” รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จัดทริปเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก กลับไร้ชื่อประเทศไทยอยู่ในลิสต์การเดินสาย แถมพูดให้ร้ายจีนออกสื่อโครมๆ ทำแบบนี้จะให้ตีความว่ายังไงตอนได้รับเลือกใหม่ๆให้เป็นเบอร์สองของทำเนียบขาวมีแต่เสียงชื่นชม “คุณกมลา” ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการทลายกำแพงการเหยียดเชื้อชาติและเพศในวงการเมือง เพราะเธอคนนี้เกิดในครอบครัวผู้อพยพ คุณแม่เป็นชาวอินเดียและคุณพ่อมาจากจาเมกา เมื่อผงาดขึ้นเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของอเมริกา จึงสร้างความภูมิใจไม่น้อยให้คนเอเชียและชาวผิวสี ที่ถูกมองเป็นประชากรชั้นสองของแดนมะกันทั้งๆที่โด่งดังมาจากการต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมือง และเป็นตัวแทนของผู้อพยพในอเมริกา แต่เมื่อถึงคราวเป็นใหญ่เป็นโตได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้ไปเยือนละตินอเมริกาครั้งแรก โดยมีภารกิจใหญ่ต้องแก้ปัญหาคลื่นผู้อพยพที่ไหลทะลักเข้าอเมริกาผ่านพรมแดนทางใต้ ปรากฏว่าแค่ทริปแรกที่ไปเหยียบกัวเตมาลาและเม็กซิโกก็เรียกเสียงยี้ซะแล้ว เพราะแทนที่จะใช้ไม้อ่อนค่อยๆตะล่อม “คุณกมลา” กลับประกาศจุดยืนแข็งกร้าวว่าไม่ต้อนรับผู้อพยพ!! มันช่างขัดกับภาพลักษณ์ชาติที่คลั่งสิทธิมนุษยชนเธอย้ำชัดอีกว่า สหรัฐฯจะยังคงบังคับใช้กฎหมายและควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวด หากใครเดินทางมาที่พรมแดนของสหรัฐฯ จะต้องถูกผลักดันให้กลับออกไป งานนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้พี่น้องชาวกัวเตมาลา ซึ่งเป็นผู้อพยพกลุ่มใหญ่สุดที่หนีความยากจนและปัญหาคอร์รัปชัน มาอาศัยอยู่บริเวณพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ ด้านเม็กซิโกก็ถูกกดดันให้เพิ่มความพยายามในการควบคุมผู้อพยพหนีข้ามพรมแดนเข้าสหรัฐฯ แม้ไบเดนจะสั่งเลิกนโยบายสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกของโดนัลด์ ทรัมป์ผ่านไปไม่กี่เดือน จัดทริปใหม่เดินทางมาเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “คุณกมลา” ก็ประกาศศึกกับจีนออกนอกหน้า เพื่อสกัดการขยายอิทธิพลของมหาอำนาจคู่แข่ง และหาพันธมิตรช่วยคานอำนาจจีนในภูมิภาคนี้ โดยเลือกไปเยือนเฉพาะสิงคโปร์กับเวียดนาม เพราะเป็นหมากสำคัญระหว่างเยือนสิงคโปร์พบปะกับนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ทั้งสองได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันหลายอย่างในการขยายความร่วมมือเพื่อสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ โดยรองประธานาธิบดีสหรัฐฯใช้โอกาสนี้ยั่วยุจีนกล่าวหาว่าเป็นตัวการคุกคามทะเลจีนใต้ และเพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯในการยืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขอให้คำมั่นว่าสหรัฐฯจะปกป้องอินโด-แปซิฟิกตลอดเวลาที่ผ่านมาสหรัฐฯรับรู้ถึงท่าทีการคุกคามและอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ของจีน โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการบ่อนทำลายกฎระเบียบระหว่างประเทศ และคุกคามอำนาจอธิปไตยของนานาชาติ สหรัฐฯพร้อมจะยืนเคียงข้างพันธมิตรในการเผชิญกับภัยคุกคามจากจีน ขอย้ำว่าการสร้างความร่วมมือกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโด-แปซิฟิก มีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ กระนั้น ก็ยืนกรานว่า สหรัฐฯไม่ได้ต้องการให้ใครเลือกข้างระหว่างสหรัฐฯกับจีนถึงคราวที่อาเซียนจะขึ้นสเตตัส “สวยเลือกได้” ซะแล้ว เพราะเรากำลังเนื้อหอมสุดๆ เป็นที่ต้องการของสองมหาอำนาจโลก ว่าแต่เพื่อนแท้ต้องดูยามยากใช่ไหม ใครดีมาเราต้องดีตอบ ...อย่าด้อยค่าจีน แล้วเผลอไปอวยอเมริกาเกินหน้า!!มิสแซฟไฟร์
