ภาพพระบรมมหาราชวัง “แลนด์มาร์ก” ประเทศไทย ถูกบดบังด้วยตู้ขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมัน และตู้คอนเทนเนอร์ยักษ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขนมาวางขวางถนนรอบท้องสนามหลวง สัญลักษณ์ความสวยงามของกรุงเทพฯหายไป ในยุทธการ “ปกป้องคนดี”และภาพข่าวกระจายไปตามสำนักข่าวทั่วโลก ม็อบเด็กรุ่นใหม่ของไทยปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชน เปิดฉากซัดกันด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูง กระบอง แก๊สน้ำตา ฝั่งม็อบก็มีกระสุนหนังสติ๊กหัวนอตสวนออกมา“สมรภูมิแยกดินแดง”กลายเป็นจุดแลกเลือด ตามหมุดหมายแท้จริงของม็อบเด็กที่พยายามบุกไปกดดันถึงบ้านพักในค่ายทหาร ร.1 รอ.ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมในอารมณ์ที่ประเมินได้ง่ายๆ เด็กโดนจัดหนักทุกรอบ ถ้า “เข็ด” คงถอยไปนานแล้ว แต่แนวโน้มม็อบนักเรียนนิสิตนักศึกษา ยิ่งโดนถล่มหนักยิ่งนัดกันถี่ จากรายสัปดาห์เป็นราย 2-3 วัน และน่าจะรายวันสู้เพื่ออนาคตตัวเอง ไม่สนแนวร่วมเสื้อแดงโดดหนีตีกรรเชียง ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่สัมผัสได้ถึงแรงต้านภายนอกสภาที่ยกระดับใกล้จุดแตกหักเข้าไปทุกขณะ ล้อไปกับภาวะมหาวิกฤติโควิดความผิดพลาดในเชิงบริหารของรัฐบาล 3 ป. บวก 2 น. ที่เหยื่อโรคไวรัสระบาดกราฟพุ่งทะลัก แปรผกผันกับวัคซีนที่กระท่อนกระแท่นไม่วาย ยังขึ้นป้ายหาเสียง หาเศษหาเลยกับวัคซีนบริจาคไฟเซอร์ จับอาการนักการเมืองอาชีพแบบไทยๆสถานการณ์พรรคร่วมรัฐบาลยังกอดคอกันแน่น เกาะเกี่ยวกันด้วยผลประโยชน์ แถมฝ่ายค้านดันแตกคอ “หัวหงอก” ยี่ห้อเพื่อไทยเล่นเกมเขี้ยวไปเอี่ยวขอแจม “งบกลาง” เลยโดน “เด็กหัวดำ” ทีมก้าวไกล แฉประจานเกม “ฮั้วข้ามขั้ว” ตีเช็คเปล่า ให้ผู้นำ หวังเงินทอนสรุปทีมแห่ “บิ๊กตู่” ส.ส.รัฐบาลแน่นปึ้ก งูเห่าฝ่ายค้านเพ่นพ่าน ไม่นับแต้มของตาย 250 ส.ว. ตัวเลขเสียงหนุนในสภา ย้อนแย้งหักมุมกันสุดโต่งกับกระแสศรัทธานอกสภา เชื้อร้ายโควิด ก่อวิกฤติเกมอำนาจการเมือง โรคระบาดกำลังต้อนผู้นำรัฐบาล 3 ป.ไหลเข้าตรอกทางตันกึ๋นบริหารไปต่อลำบาก แต่ก็ยากจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่แสงสว่างปลายอุโมงค์ เกมอำนาจติดล็อก ดวงเมืองตกห้วงวินาศ วิบากกรรมประเทศไทยจะโทษใคร คงต้องถามไปที่ “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ คนร่างคัมภีร์สืบทอดอำนาจ รัฐธรรมนูญฉบับ “เขาอยากอยู่ยาว”ผูกเงื่อนปมไว้จนแน่น วางหมากกลแผนซ้อนแผนจนตัวเองยังงง หาทางออกไม่เจอ เว้นเสียแต่ วันเวลาเปลี่ยน สัญญาณเริ่มแปร่งด้วยอิทธิฤทธิ์โควิด ติดเชื้อโรคระบาดงอมแงม ทำให้ขุมพลังอำนาจรัฐบาลผสม 3 ป. แท็กทีม 2 น. ที่เคยแน่นปึ้กพลังถดถอย หมากอำนาจพานสะดุด วางเกมไม่ได้ดั่งใจจากปรากฏการณ์ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้ผู้นำรัฐบาลใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯล็อกสื่อ อ้างการไล่ทุบเฟกนิวส์ปิดปากสื่อหลัก ต่อเนื่องกันเลยกับการที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) สั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯเช็กอาการ “ภูมิคุ้มกัน” เริ่มบกพร่อง แม้ ป.ป.ช.สายบ้านป่ารอยต่อฯจะยึกๆยักๆกั๊กข้อกฎหมาย อ้างไม่มีอำนาจรองรับ ถ้าเปิดขุมทรัพย์ปู่โสมฯแล้วโดน “บิ๊กตู่-วิษณุ” ฟ้องกลับจะทำยังไงแต่แกะรอยเค้าลาง หมดอำนาจเมื่อไหร่ บ๋อยตามเช็กบิลรัวๆแน่ ยิ่งในภาวะ “น้ำลด” ตอเริ่มโผล่ ปิดไม่มิด ล่าสุดแว่วๆข้อมูลในวงการนักลงทุนยักษ์ใหญ่กำลังโจษขาน ว่าด้วยปมท้าทายมาตรฐาน “คนดี”“บิ๊กตู่” ระแคะระคายหรือไม่ มีพวกอาศัยลูกนัวโควิดซุ่มโป่งทิ้งทวน รายการต่อสัมปทานท่อส่งน้ำหลักในภาคตะวันออกมูลค่ามหาศาล ที่จะหมดสัญญาในปี 2566 โดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ได้ประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมประมูล แบบเงียบๆราวกับกระซิบ แถมมีเวลาแค่ 24 วันให้เข้ายื่นประกวดราคา ทำให้มีคนรู้ข่าวไม่กี่รายแน่นอน หนึ่งในนั้นคือเจ้าของสัมปทานเก่าที่ผูกขาดยาวนาน และทีมบริษัทหน้าม้า แม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่างเครือซิเมนต์ไทย (เอสซีจี) ยังหลุดโพยไม่ได้รับแจ้ง ทั้งที่มีแผนเข้าร่วมประมูลจัดการน้ำ ตามมูลค่าการลงทุนของเอสซีจีในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มหาศาล สภาพพิลึกพิลั่น งานนี้กระเทือนแผนลงทุนอีอีซีแน่เพราะตามข่าวก่อนหน้านี้ ปัญหาใหญ่ที่ผ่านมานักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างไม่มั่นใจระบบการบริหารจัดการแบบผูกขาดในภาคตะวันออก น้ำขาดๆเกินๆ อีกทั้งไม่มีหน่วยงานกลาง “เรคกูเรเตอร์” กำกับ ทำให้น้ำราคาแพงเกินจริง กระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ที่กำลังจ่อย้ายฐานการผลิตโดยสภาพที่ฝ่ายบริหารไม่ต้องมีวิชันก็คิดได้ ถ้ายังดันทุรังปล่อยให้มุบมิบประมูลผูกขาดกันไป สภาพเมกะโปรเจกต์อีอีซีที่เงียบเป็นป่าช้า หลัง “บิ๊กตู่” นั่งแท่นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นักลงทุนแห่หนีไปเวียดนาม พวกที่กำลังสองจิตสองใจยิ่งคิดง่าย ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวสตาร์ตเครื่องไม่ติด ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ฟาวล์ การส่งออกที่ได้อานิสงส์จากหลายประเทศทั่วโลกเริ่มฟื้น ก็เจอปัญหายาเสพติดซุกสินค้าส่งออกจากไทย ส่อเจอสกัดจากประเทศปลายทางภาคการลงทุน ความหวังอันดับท้ายๆ อีอีซีที่ยังพอมีลมหายใจ ก็ดันเจอไอ้เข้ขวางคลอง กั้นทางน้ำ ซ้ำมหาวิกฤติโควิด เครื่องยนต์ดับหมด เศรษฐกิจจะพังทั้งกระดาน.ทีมข่าวการเมือง