เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน มีการขุดพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลหางของไดโนเสาร์ชนิดหนึ่งในรัฐโกอาวีลา ทางตอนเหนือของเม็กซิโก การศึกษาฟอสซิลนี้จึงเริ่มขึ้นในปี พ.ศ.2556 โดยนักบรรพชีวินวิทยาจากสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติเม็กซิโก (National Institute of Anthropology and History-INAH) ที่ขุดต่อไปด้านล่างพื้นที่พบฟอสซิลหางชิ้นดังกล่าว จนกระทั่งไปพบกับชิ้นส่วนอื่นๆ คือ กะโหลก หงอน กระดูกโคนขา กระดูกสะบัก ล่าสุด นักบรรพชีวินวิทยาระบุว่าซากฟอสซิลไดโนเสาร์ตัวนี้มีอายุประมาณ 73 ล้านปี อยู่ในตระกูล ไดโนเสาร์ปากเป็ด แต่พิเศษกว่านั้นคือนี่คือการค้นพบสายพันธุ์ใหม่ชื่อว่า ทลาโตโลฟัส กาโลรัม (Tlatolophus galorum) อยู่ในตระกูลไดโนเสาร์ปากเป็ด และยังเป็นไดโนเสาร์มีหูที่สามารถได้ยินเสียงความถี่ต่ำ นักบรรพชีวินวิทยาจึงมั่นใจว่า ทลาโตโลฟัส กาโลรัม ต้องเป็นไดโนเสาร์ที่รักสงบ แต่ก็ช่างพูดช่างคุย เนื่องจากมันจะส่งเสียงดังจ้อกแจ้กเพื่อไล่สัตว์นักล่า หรือส่งเสียงหาคู่เพื่อการสืบพันธุ์ทั้งนี้ นักบรรพชีวินวิทยาเผยว่า ประมาณ 72 หรือ 73 ล้านปีก่อน ไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่อย่าง ทลาโตโลฟัส กาโลรัม ตายลงตรงบริเวณที่เป็นหนองน้ำเต็มไปด้วยตะกอน ดังนั้น ร่างกายของมันจึงถูกฝังกลบปกคลุมด้วยดินอย่างรวดเร็ว จนทำให้สามารถรักษาโครงสร้างฟอสซิลไว้ได้นานหลายล้านปี.