หลังนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเอาจริงกับการจัดการข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2564โดยหวังเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ และลดความเสียหายและผลกระทบทางลบที่เกิดขึ้น ดำริให้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยอาจนำมาตรการทางปกครอง มาตรการทางภาษี และมาตรการทางสังคมมาใช้มากขึ้นการเข้าไปอยู่ในวงโคจรของข่าวปลอม จึงถือเป็นภัยใหญ่หลวง หากการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการความเข้มงวดและจริงจังในฐานะพลเมืองที่ดีของประเทศ นอกจากไม่พึงสร้างข่าวปลอมที่มีเจตนาสร้างความปั่นป่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังตกอยู่ในความยากลำบากแล้ว การตกเป็นเหยื่อข่าวปลอมด้วยความไม่รู้เท่าทัน ช่วยกระจายให้กระเพื่อม ผ่านยอดแชร์ ยอดไลค์ ยังอาจนำมาซึ่งการถูกลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย อย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นสัปดาห์นี้ “ไทยรัฐไซเบอร์เน็ต” จึงขอหยิบยกบทความจากกูเกิล (Google) ประเทศไทย ที่นำเสนอเคล็ดลับในการสังเกตข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แบ่งปันความรู้เพื่อตรวจสอบข้อมูลและไม่ตกเป็นเหยื่อได้โดยง่ายดังต่อไปนี้1.ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยเครื่องมือจาก Google โดยผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจหยิบยกเรื่องราวที่สงสัยหรือเรื่องที่คล้ายกัน เพื่อค้นหาสิ่งที่เกิดขึ้นจริง โดยค้นหาด้วย Fact Check Explorer เครื่องมือที่รวบรวมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมากกว่า 100,000 รายการ จากผู้เผยแพร่ที่เชื่อถือได้ทั่วโลก ยกตัวอย่าง ความเชื่อที่ว่าการดื่มน้ำมะพร้าวช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้จริงหรือ จากการตรวจสอบพบว่าไม่เป็นความจริง2.อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น รูปภาพบางรูปอาจมาจากที่อื่นหรือถูกดัดแปลง ตกแต่ง จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ให้คลิกขวาที่รูปภาพแล้วเลือก “ค้นหารูปภาพด้วย Google” (Search Google for Image) เพื่อตรวจสอบว่ารูปภาพนั้น เคยปรากฏบนโลกออนไลน์มาก่อนหรือไม่ และในบริบทใด ซึ่งจะทำให้เห็นว่ารูปภาพนั้นมีการตัดต่อหรือเติมแต่งเพื่อบิดเบือนความจริงหรือไม่3.แสวงหาแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย พิจารณาดูว่าสำนักข่าวต่างๆ รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์เดียวกันอย่างไร โดยเปลี่ยนเป็นโหมดข่าวสารหรือค้นหาหัวข้อที่ต้องการใน news.google.com แล้วคลิกไปที่การแสดงเนื้อหาแบบ “Full Coverage” เพื่อดูข่าวจากหลากหลายแหล่งที่มา4.มองหาข้อมูลให้ถูกที่ ผ่านการรับข้อมูลสำคัญและสำรวจหัวข้อต่างๆในเชิงลึกได้มากขึ้นจากแผงความรู้ (Knowledge Panel) ใน Google Search สำหรับวิดีโอ ส่วน “ข่าวด่วน” (Breaking News) และชั้นวาง “ข่าวเด่น” (Top News) ในผลการค้นหา ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแหล่งที่มาของข่าวที่น่าเชื่อถือได้ง่ายขึ้น5.กระจายความรู้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านความร่วมมือกับสำนักข่าวทั่วโลกเพื่อช่วยผลักดันการเติบโตของแวดวงสื่อสารมวลชนในยุคดิจิทัล มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนารูปแบบธุรกิจ การยกระดับการสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพ และการผลักดันแนวคิดและแนวทางใหม่ๆในการนำเสนอข่าว.