@ จากที่ 30 ปีก่อน ทายาทสายสกุลบุนนาค (ซึ่งตอนนี้ ดนุช บุนนาค กลายเป็นรุ่นอาวุโส) เคยให้เช่าที่ดิน 2 ไร่ ที่เยาวราช ซึ่งเคยเป็นบ้านเจ้าคุณปู่ (เจ้าพระยาพิชัยญาติ) หลังจากท่านเจ้าพระยาย้ายจากบ้านเยาวราชไปอยู่บ้านที่สุริวงศ์ ซึ่งปัจจุบันคือ จิม ทอมป์สัน บ้านเยาวราช ก็ให้เช่าทำ โรงหนังคาเธ่ย์ ต่อมา โรงหนังก็หมดสัญญา ในรุ่นคุณพ่อของ คุณไข่ไก่-ดนุช คือ ศ.เกียรติคุณ นพ.ดนัย บุนนาค คุณหมอซึ่งเป็นประธานกรรมการบริษัทของตระกูลบุนนาค จึงปรับปรุงใหม่ ตามที่เพื่อนๆตำรวจและเพื่อนใน กทม. แนะนำว่าเยาวราชขาดแคลนที่จอดรถ คุณหมอจึงสร้างเป็นอาคารจอดรถ 10 ชั้น ชื่ออาคารพิชัยญาติ และให้เทสโก้เช่าชั้นล่าง และชั้นสองให้เช่าขายของทั่วไป และชั้น 10 เป็นภัตตาคารจีน มีโชว์จีนตามความนิยมยุคก่อน ผ่านมา 15 ปี ทายาทรุ่นปัจจุบัน นำโดยรุ่นหลานๆที่เติบโตขึ้น มีอาทิ อรปรียา ศิลปบรรเลง (ซึ่งมารดา เป็นสายบุนนาค) ได้เข้าไปช่วยบริหาร อาคารพิชัยญาติ เพราะเห็นศักยภาพและการเติบโตของธุรกิจของถนนทองคำ และยังเป็นไชน่า ทาวน์ เมืองไทย และตึกพิชัยญาติ เป็นตึกเดียวที่มีที่จอดรถมากที่สุดในเยาวราช เป็นร้อยๆคัน รุ่นหลานเจ้าพระยา จึงเปลี่ยนโฉม อาคารพิชัยญาติ โดยชั้นล่าง ยังเป็นเทสโก้เหมือน 15 ปีก่อน แต่เริ่มปรับปรุงชั้นสอง ชั้นสาม เป็นพื้นที่ให้เช่า โดยเริ่มเปิดตัวเบาๆ ไปเมื่อตรุษจีน ซึ่ง มาดาม ปิ๋ว-ศากุน บุนนาค จัดตลาดนัด ชวนเพื่อนพ้องเอาของไปขาย โดยไม่คิดค่าเช่า 4-11 ก.พ.ปรากฏว่าแจกและแถมมากกว่าขาย ไม่สนใจทุน กำไร เพราะเป้าหมายหลัก คุณปิ๋ว-ศากุน อยู่ที่ซื้อขายทองคำ พอบ่ายสอง เสร็จจากขายขนมบนตึก ก็ลงไปซื้อไปขายทองคำที่ ฮั่วเซ่งเฮง ทุกวัน ได้กำไรมาหลายหมื่นภายในหนึ่งอาทิตย์ ซึ่ง คุณปิ๋ว บอกว่า ก่อนนี้ซื้อขายจริงจังกว่านี้หลายเท่า จนได้กำไรไปซื้อกระเป๋าแอร์เมสได้ปีละ 5-6 ใบ@ พอเห็น new face ของ วีระศักดิ์ ชุณหจักร เพื่อนพ้องก็ถามเกรียว เพราะทึ่งที่เพิ่งทำไปวันวาน แต่คืนเดียวก็ออกสื่อ อวดหน้าที่มีแต่รอยเย็บสองข้างหู โดยไม่มีวี่แววเจ็บปวด แต่พอฟังบรรยายพิธีกรรม ก็แหยงนิดๆ เพราะก่อนทำ face log คุณอิ่ม-วีรศักดิ์ ต้องไปฉีดละลายไขมันที่หน้า 10 ครั้ง จนเนื้อที่เคยเต่งตึงเพราะมีไขมัน มีสภาพหย่อนย้วยห้อย ทำให้ดึงหนังหน้า และตัดส่วนเกินออกได้ง่าย และขึงใหม่ให้ตึงเด้งเต็มที่ และริ้วรอยย่นยับก็หายไปด้วย เบื้องหลังหน้าใหม่ ใจสู้ของ คุณอิ่ม เกิดขึ้นเพราะหลังจากช่วยบริหาร เสม็ด รีสอร์ท กรุ๊ป สร้างทีมจนแข็งแกร่ง ทุกอย่างลงตัว คุณอิ่ม ก็พบว่า ถึงจุดอิ่มตัว และรู้สึกพอแล้ว กับ 10 ปี 10 เดือนที่ทุ่มเท จนใครๆ รู้ฝีมือ คุณอิ่ม จึงลาออกเงียบๆ และใช้เวลากับการหาอะไรใหม่ทำ อย่างหนึ่งคือ ทำหน้าใหม่ เป็นครั้งที่สอง หลังเคยไปดึงหน้าผาก ตัดปีกจมูกเสริมดั้ง เก็บเหนียงที่คอ ร้อยไหม ที่เกาหลีตอนทำ คุณอิ่ม ได้ทราบว่า หมอเกาหลีเคยมาเรียนศัลยกรรมตกแต่งกับหมอไทย เพราะรัฐบาลสนับสนุนจริงจังและครบวงจร ตั้งแต่ทีมแพทย์ อุปกรณ์ แล้วยังต่อเนื่องไปถึงธุรกิจเครื่องสำอาง เขาจึงมีอุปกรณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเมืองไทย พอกลับมา คุณอิ่ม จึงพยายามคุยกับคนในรัฐบาล อยากให้เมืองไทยสนับสนุนแบบนี้บ้าง จะนำรายได้เข้าประเทศมหาศาล เพราะหมอไทยฝีมือดีมากมายและเพื่อยืนยันว่าหมอไทยเก่งจริง พอลาออกจากงานเกาะ คุณอิ่ม จึงไปทำหน้ารอบสองกับหมอไทย แต่หมอบอกว่าแก้มไม่เท่ากัน ให้ไปตรวจก่อน จนพบว่าหน้าเบี้ยวเพราะต่อมน้ำลายอักเสบ จึงให้ไปรักษาจนหาย ก่อนฉีดละลายไขมัน และเพราะเป็นโรคหยุดหายใจตอนนอน หมอจึงไม่ให้ยาสลบ แค่ฉีดยาชา ซึ่ง คุณอิ่ม เฉยมาก (เพราะผ่านมีดหมอมาเยอะ) ตอนคุณหมอกรีดๆตัดๆ คุณอิ่ม ก็ชวนคุยไป โดยไม่รู้สึกเจ็บ เพราะจะเติมยาชาทุกระยะก่อนจะเจ็บ จนเสร็จใน 3 ชั่วโมง โดยหน้า คุณอิ่ม ไม่บวมไม่เขียวเลย รุ่งขึ้น จึงไปกินข้าวกับเพื่อน โดยไม่มีใครรู้ ถ้าไม่หันให้ดูแผลข้างหู และยังดื่มไวน์ได้เป็นขวด (เพราะคุณหมอบอกว่า ยุค 4G 5G หมดสมัยที่ต้องอดอาหารหรืองดแอลกอฮอล์หลังผ่าตัดแล้ว) แค่ห้าวัน คุณอิ่ม ก็ตัดไหม และตั้งแต่ผ่ามา คุณอิ่ม แฮปปี้มากที่ทุกคนทักว่าหน้าเด็ก โดยไม่รู้เลยว่า คุณอิ่ม ไปผ่าตัดขึงหน้ามา.โสมชบา