ชื่อชั้น “เจ้าหยุย” คนสมัยราชวงศ์ถัง แม้ประวัติระบุแค่ว่า เป็นอาจารย์ลี่ไป๋ กวีผู้มีชื่อเสียงแต่เนื้อหากลยุทธ์ในการทำสงคราม ที่เขียนไว้ใน “ฉางต่วนจิง” ศาสตร์แห่งการยืดหยุ่นและพลิกแพลง (อธิคม สวัสดิญาณ เรียบเรียง สำนักพิมพ์เต๋าประยุกต์ พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2549) ที่ลุ่มลึกซับซ้อนทุกข้อ นั้นความสำคัญที่สุด อยู่ที่บทที่ 68 บทสุดท้าย “ถอยทัพ”เมื่อตัดสินใจทำสงคราม...ซุนวูกล่าวว่า “กรีธาทัพสิบหมื่น ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย วันละพันตำลึงทอง”จึงกล่าวกันว่า ขนเสบียง 100 ลี้ ราษฎรขาดแคลนอาหาร 1 ปี ขนเสบียง 200 ลี้ ราษฎรขาดแคลนอาหาร 2 ปี และขนเสบียง 300 ลี้ ราษฎรขาดแคลนอาหาร 3 ปีหากเป็นเช่นนี้ ชาติบ้านเมืองก็จะว่างเปล่า เมื่อชาติบ้านเมืองว่างเปล่า ราษฎรก็ยากจนข้นแค้นเมื่อราษฎรยากจนข้นแค้น เบื้องบนเบื้องล่าง ก็จะไม่สามัคคีปรองดองกันเมื่อเบื้องบนไม่สามารถแผ่พระคุณไพศาล และเบื้องล่างไม่สามารถเลี้ยงตัวยังชีพ การเอาใจออกห่างก็จะเกิดขึ้น ถึงชนะศึก ก็ทำให้ฝ่ายตน ค่อยๆตกอยู่ในฐานะปราชัยเพราะฉะนั้น แม้จะตีข้าศึกที่เข้มแข็งเกรียงไกรแตกพ่ายนอกประเทศ สร้างความชอบธรรมใหญ่หลวงขึ้นในประเทศ แต่ผู้ชนะศึกยังต้องจัดพิธีไว้อาลัย (นักรบไพร่พลที่พลีชีพ)แม่ทัพจะต้องแต่งชุดไว้อาลัย ขอให้องค์เหนือหัวทรงลงโทษองค์เหนือหัวจะตรัสว่า เราใช้กำลังทหารบำราบแคว้นที่โหดร้ายป่าเถื่อน จับเชลยและชนะศึกแล้ว แม่ทัพย่อมไม่มีความผิด และดังนั้นจึงพระราชทานยศศักดิ์ตำแหน่งให้แต่กลับริบอำนาจทางการทหารคืนจึงมีภาษิตว่า “วิหคสิ้น เกาทัณฑ์ซ่อน อริรัฐล่ม นักกลยุทธ์ม้วย”ที่ว่าม้วยนั้น มิได้หมายความว่าถูกฆ่าตาย แต่หมายความว่าต้องเอาอำนาจอิทธิพลของท่านทิ้งถ่วงลงห้วงมหรรณพ พูดง่ายๆ ต้องริบเอาอำนาจบารมีของท่านคืนให้ราชสำนักแต่มอบตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสูงสุดให้ เพื่อเชิดชูความดีความชอบของท่าน มอบที่ดินที่ดีที่สุดในแคว้นให้ เพื่อทำให้ท่านสุขใจการปกครองของผู้มีเมตตานั้น ต้องสนับสนุนความเป็นปึกแผ่นไม่แบ่งแยกอำนาจบารมีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ซึ่งท้ายที่สุดก็ไม่มีใครยอมมอบคืนง่ายๆเพราะฉะนั้น ชนะศึกถอยทัพ จึงเป็นเรื่องใหญ่ใหญ่ระดับที่ทำให้ชาติบ้านเมืองตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ดำรง หรือล่มสลายเพราะฉะนั้น ต่อขุนพลที่ไม่ยอมคืนอำนาจทางการทหาร จะต้อง ทอนอำนาจตำแหน่ง และลดศักดินาของท่านการสนับสนุนวิถีแห่งเจ้าอำนาจนั้น จึงมีทฤษฎีค่อนข้างซับซ้อน องค์เหนือหัวหากเข้าใจวิถีนี้อย่างลึกซึ้ง ก็สามารถลงการเหล่าข้าราชบริพาร ทั้งบุ๋นและบู๊ไปบรรลุภารกิจใหญ่หลวงข้าราชบริพาร หากเข้าใจวิถีอย่างลึกซึ้ง ก็จะรักษาชื่อเสียง ความชอบ และศีรษะไว้ได้เหล่านี้ เป็นทุกถ้อยกระทงความ ในฉางต่วนจิง บทสุดท้าย ที่ผมตั้งใจ คัดลอกมาให้เรียนรู้กันผมอ่านถึงวรรค “เมื่อราษฎรยากจนข้นแค้น เบื้องบนเบื้องล่าง ก็จะไม่สามัคคีปรองดองกัน” แล้วขนลุกซู่!เลยครับเจ้าหยุย คนสมัยราชวงศ์ถัง เขียนเหมือนหลับตาเห็น เหตุการณ์ในบ้านเมืองเราล่วงหน้ากว่า 1,200 ปี.กิเลน ประลองเชิง