เมื่อ 23 ม.ค. ตำรวจรัสเซียเข้าควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งที่กรุงมอสโก และทั่วประเทศกว่า 3,000 คน และยังใช้กำลังกับฝูงชนนับหมื่นที่ออกมาชุมนุม ประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายอเล็กเซ นาวัลนี ผู้นำฝ่ายค้าน คู่ปรับคนสำคัญของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน หลังถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวที่สนามบิน ขณะเดินทางจากเยอรมนีกลับเข้าประเทศเป็นครั้งแรก นับแต่ถูกวางยาพิษและต้องไปรักษาที่เยอรมนีทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่าอาจเสี่ยงติดโควิด-19 รวมถึงอาจถูกดำเนินคดีและเข้าคุกเพราะจัดการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังเพิกเฉยท่ามกลางอุณหภูมิต่ำติดลบ 50 องศาเซลเซียส และนายลีโอนิด วอลคอฟ เพื่อนของนาวัลนี ยังเรียกร้องนัดชุมนุมต่อในสัปดาห์หน้า ขณะที่นางยูเลีย ภรรยาของนาวัลนี ถูกควบคุมตัวระหว่างเข้าร่วมการชุมนุมก่อนได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมาขณะเดียวกัน นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาประณามการกระทำที่รุนแรงของเจ้าหน้าที่ต่อผู้ชุมนุมและผู้สื่อข่าว รัฐบาล จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมที่ออกมาเรียกร้องตามสิทธิ์ทุกคน รวมนาวัลนี และขอให้รัฐบาลรัสเซียร่วมมืออย่างเต็มที่กับองค์กร สากลในการตรวจสอบเรื่องลอบวางยาพิษนาวัลนีด้วย.