ปลุกปั้นมากับมือจน “The Silk Road” กลายเป็นหนึ่งในตองอูเรื่องอาหารจีนต้นตำรับกวางตุ้งที่ครองใจนักชิมรสนิยมหรู สร้างชื่อเสียงขจรขจายให้กับ “โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก” มาอย่างต่อเนื่อง ต้องยกความดีความชอบให้กับเชฟฮ่องกงมากฝีมือ “เชฟเชงกัมซิง” ที่นำประสบการณ์การทำงานจากโรงแรมห้าดาวในฮ่องกงและมาเก๊า มาบุกเบิกสร้างตำนานบทใหม่ให้เส้นทางสายไหมแห่งนี้ตั้งแต่เริ่มเปิดบริการ เผลอแป๊บเดียวก็ปักหลักอยู่เมืองไทยกว่า 20 ปีแล้ว นอกจาก “เดอะ ซิลค์ โรด” จะโด่งดังเรื่องเมนูติ่มซำคุณภาพ ที่การันตีว่าลูกใหญ่, หน้าตาโดดเด่นมีเอกลักษณ์, ทำสดใหม่ทุกวัน และไม่ใส่ผงชูรส “เชฟกัม” ยังผสานต้นตำรับความอร่อยแบบกวางตุ้งแท้ๆมาปรุงรสชาติและรูปโฉมใหม่ให้ดูทันสมัยน่าประทับใจ โดยหลังรีโนเวทใหญ่ปรับโฉมห้องอาหารจนดูโก้หรูในสไตล์อาร์ตเดโค เชฟใหญ่ก็บรรจงเนรมิตเมนูอาหารจานเด็ดขึ้นใหม่หลายเมนู เพื่อสร้างสีสันดึงดูดใจ เมนูใหม่ภูมิใจนำเสนอก็ต้อง “Stirfried scallop from Australia with broccoli and caviar” หอยเชลล์ออสเตรเลียเจี๋ยนกับไข่ปลาคาเวียร์พร้อมผักบรอกโคลี ตามมาด้วย “Stirfried Wagyu beef filet from Japan with X.O. sauce” เนื้อวากิวญี่ปุ่นเจี๋ยนซอสเอ็กซ์โอ หรือใครชอบความแฟนซีแนะนำให้ลอง “Deepfried prawns from Nakhon Pathom with Chinese orange sauce in chocolate dome” กุ้งนครปฐมทอดราดซอสส้มจีนในฝาครอบช็อกโกแลต เป็นการผสมความเป็นตะวันตกและตะวันออกเข้ากันอย่างลงตัว วิธีเสิร์ฟก็ครีเอทีฟมากๆ แต่ขออุบไว้ต้องลองเอง ส่วนใครที่หลงรัก เป็ดปักกิ่งในตำนานของ “เดอะ ซิลค์ โรด” อยากให้ลองสูตรเด็ดเพิ่มความฟินด้วยไข่ปลาคาเวียร์ วิธีเสิร์ฟของที่นี่เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร เพราะพนักงานจะจุดไฟย่างเป็ดปักกิ่งโชว์ความกรอบให้ชมกันสดๆ สูตรใหม่จะแล่เป็ดปักกิ่งแบบติดเนื้อสไตล์ฮ่องกงแท้ๆ แป้งห่อเป็ดปักกิ่งก็ประณีตมาก เพราะเชฟตั้งไฟอุ่นเบาๆให้แป้งนุ่มไม่แข็งตัว พลาดไม่ได้ยังรวมถึง “ติ่มซำสามกษัตริย์” และ “ซุปกระเพาะปลาสดกวางตุ้ง” ที่เชฟตั้งใจเคี่ยว 2 วัน 2 คืน รสชาติละมุนละไมมาก ปิดท้ายด้วยขนมหวานสุดวิจิตร “ดอกโบตั๋นทอดไส้คัสตาร์ด” แป้งบางเบาละลายในปากเข้ากันได้ดีกับคัสตาร์ดอุ่นๆ อร่อยจนอดใจไม่ไหว.