ร้องเรียนจากบรรดาพ่อค้ารับซื้อวัว-ควายที่จะนำวัวและควายมาขายในเขตพื้นที่ของ ตลาดนัดจังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากว่ามีรถตำรวจทางหลวง 2 นายบอกว่า คนรถมีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ อีกคนเดินเหมือนกับคนพิการ ขับรถตระเวนไปบนท้องถนนเพื่อที่จะเรียกรถยนต์กับผู้ขับขี่ที่ทำผิดกฎหมายบนท้องถนนระหว่างนั้นพบบรรดาพ่อค้า แม่ค้าที่ได้นำวัวและควายมาขายในพื้นที่ตลาดนัดโคกระบือในเขตพื้นที่แล้ว แต่ทางเจ้าของตลาดนัดที่เขาจัดขึ้นจะจัดในวันอังคารและวันพุธที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ในบางพื้นที่จัดที่ตลาดนัด อ.ศีขรภูมิ บางรายเดินทางมาซื้อและบางรายเดินทางนำมาจำหน่ายคือการขายและแลกเปลี่ยนคนร้องบอกว่า หลังจากที่นำวัวควายมาขายจะพบเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงขับรถตระเวนเรียกให้หยุดประกอบกับสอบถามต่างๆนานาหลังจากนั้นก็แฝงตัวเข้าไปภายในรถเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง ให้นายฮ้อยขับรถออกไป ซึ่งนายฮ้อยที่นำวัวควายมาขายต่างพากันละเหี่ยใจที่จะต้องมาเผชิญวิบากกรรมอย่างนี้เพราะวัวควายที่นำมาขาย ส่วนมากจะนำมาขายเพื่อที่จะได้เงินมาชดใช้หนี้สินกับนายทุนตลอดจนใช้หนี้สินที่ติดค้างกับ ธ.ก.ส. เพราะข้าวกล้าปีนี้ อย่าหวังเลยว่าจะได้ราคาหลังจากที่ได้รับเงินแล้วจะขับรถตระเวนออกไปสุ่มตรวจตามพื้นที่ต่างๆที่มีบรรดาพ่อค้าแม่ขายที่จะนำวัวและควายมาขาย บางวันได้จำนวนหลายรายวันไหนไม่ได้ก็จะเข้ามาอาละวาดเจ้าของตลาดนัด สอบถามหาคนดูแลในพื้นที่ ฟังดูแล้วมันหดหู่ที่เกิดขึ้นในยุคข้าวยากหมากแพงอย่างนี้ วัวและควายที่ชาวบ้านนำมาขายใช้หนี้กำไรก็ไม่กี่บาทลำพังค่าขนมลูกเต้าก็หมดแล้ว บรรดาพ่อค้า แม่ขาย ยอมรับในความผิด ขอกันกินยังได้มากกว่านี้ ตำรวจยุคนี้ไม่รีดไม่ไถกันแล้วมันน่าจะหมดสมัยกันไปนานแล้วถ้าหากว่านัดหน้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก บรรดานายฮ้อยคงจะต้องนำขี้วัวและขี้ควายไปส่งให้หน้าป้อมยาม หรือไม่ก็พากันแห่ไปที่ป้อมยามอย่างแน่นอนคงสะใจแน่เลย.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th