เมื่อปี พ.ศ.2561 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยหนานจิงของจีน รายงานว่าพบหลักฐานลักษณะการแตกแขนงของขนแรกเริ่ม (protofeathers) ในซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล 3 ชิ้นของเครือญาติไดโนเสาร์ ที่รู้จักกันว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานบินได้ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่เรียกว่าเทอโรซอร์ (pterosaurs)ต่อมาทีมนักบรรพชีวินวิทยาจากศูนย์วิจัยบรรพชีวินวิทยาของมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ในอังกฤษ ได้ตรวจสอบหลักฐานดังกล่าวอีกครั้ง และได้ข้อสรุปว่าสัตว์เลื้อยคลานบินได้เหล่านี้ไม่มีขนเลย เนื่องจากโครงสร้างแตกแขนงเหล่านั้นไม่น่าจะใช่ขนแรกเริ่มของเทอโรซอร์ แต่เป็นเส้นใยเหนียวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างภายในเยื่อบุผิวตรงปีกของเทอโรซอร์ โดยการแตกแขนงนั้นอาจเป็นผลมาจากเส้นใยเกิดการสลายตัวและคลายลง พร้อมกับเชื่อว่าซากฟอสซิล 3 ชิ้นนี้เป็นของเทอโรซอร์ที่น่าจะมีหัวล้านอีกด้วยแม้ว่าการวิจัยสิ่งเหล่านี้จะดูเหมือนข้อปลีกย่อยทางวิชาการ แต่ก็มีผลกระทบต่อการศึกษาบรรพชีวินวิทยาอย่างมาก โดยเฉพาะวิวัฒนาการของขนเทอโรซอร์ ไดโนเสาร์ และนก เพราะหมายความว่าเทอโรซอร์มีขนที่เก่าแก่ที่สุด ปรากฏตัวครั้งแรกโดยเป็นบรรพบุรุษร่วมกันของเทอโรซอร์และไดโนเสาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าองค์ประกอบที่คล้ายขนนกวิวัฒนาการมาอย่างน้อย 80 ล้านปี เร็วกว่าที่เคยคิดไว้.(ภาพจาก : Megan Jacobs, University of Portsmouth)