องค์การอนามัยโลก (WHO) ผวาเชื้อโควิด–19 แพร่ทางอากาศ สถานการณ์ที่เมืองใหญ่ หลายประเทศต้องสั่งปิดเมือง “ล็อกดาวน์ซ้ำ” เมื่อไวรัสมรณะเด้งกลับมาระบาดหนักอีกรอบในภาวะเศรษฐกิจไทยกรอบกว่าข้าวเกรียบว่าวเผาหลอก เผาจริง เก็บกระดูกลอยอังคารไปแล้วตามแนวโน้มแบบที่นายธนาคารใหญ่ แบงก์กรุงเทพ ไทยพาณิชย์ กรุงศรีฯ กสิกรไทย ยอมสารภาพโควิดสาหัสกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง ข้อมูลล้อกับสำนักข่าวต่างประเทศฟันธงเศรษฐกิจไทยเจอแรงกระแทกหนักสุดในภูมิภาคเอเชียนี่คือห้วงความเป็นความตายของคนไทยโดยแท้จริงอาการแบบที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลต้องกดปุ่ม “รีสตาร์ต” เรียกประชุม “ครม.เศรษฐกิจ” ชุดใหญ่ วันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ไล่ขันนอต จี้กระทรวงในโควตาพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพาณิชย์ เกษตรฯ คมนาคม การท่องเที่ยวฯ ปลดล็อกเกียร์ว่างลำพังแค่พึ่งกระทรวงการคลัง พลังงาน ภายใต้กำกับของรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อัดฉีดมาตรการประคองปากท้อง “แคะกระปุก” หมุนจนน็อกรอบ ลากต่อไม่ไหวใกล้ถึงจุดคนไม่มีเงินยาไส้ หมดเขตรัฐบาลแจกเงินโลกแห่งความจริงที่ประชาชนคนไทยต้องเผชิญครึ่งปีหลังจากนี้ไป หนีไม่พ้นแน่ท่ามกลางการเมืองที่ยังฟุ้งไปด้วยกระแสดราม่า ปรากฏการณ์ “ชีวิตพัง” จากวรรคทอง “ลุงป้อมตัวจริงน่ารัก” ที่กลายเป็นวิบากกรรมของ “ไลฟ์โค้ช” คนดัง เจอ “ทัวร์ลง” ลามไปขุดคุ้ยปมไม่โปร่งใสเงินบริจาคลากโยงไปถึงโฆษก “บิ๊กอาย” ถูกชี้เป้าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจ้างทีมอีเวนต์โปรโมต “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐผิดคิวกลายเป็นตอกย้ำภาพลบมากกว่าบวกเกมเบี่ยงไปกระแทก “คณะก้าวหน้า” จังหวะโยนไฟใส่ทีมนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ “ช่อ” พรรณิการ์ วาณิช ว่าด้วยเงิน “อวตาร” รับบริจาคแจกเงิน 3,000 บาท ช่วยคนได้รับผลกระทบโควิด คนละเรื่องเดียวกับอังกฤษและกลุ่มอียู “แบน” กะทิไทย ด้วยข้อหาทรมานลิงปีนมะพร้าว เพราะ ส.ส.พรรคก้าวไกลส่งข้อมูลให้เหลี่ยมเบี่ยงกระแส เปิด “ข่าวใหม่” กลบ “ข่าวเก่า”ต่างฝ่ายต่างงัด “ไอโอ” เปิดสงครามข่าวสารประจานศัตรู พราง “จุดบอด” ตัวเองละเลงกันเลอะเทอะ แยกไม่ออก การเมืองใหม่ การเมืองเก่า เน่าไปด้วยกัน แต่เทียบดีกรีความเน่า ณ ห้วงนี้อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า ตามเงื่อนไขเดิมพันเกมปรับ ครม.ล่าสุด ถึงช็อตสำคัญที่มวยเบอร์ใหญ่อย่าง “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หัวขบวนทีม กปปส. ผู้มีบารมีนอกพรรครวมพลังประชาชาติ-ไทย (รปช.) ต้องออกโรงเล่นเอง กำกับเองถือจังหวะใช้งานวันเกิดครบรอบ 71 ปี เป็นฤกษ์กระตุกพลังประกาศดังๆ ยี่ห้อ รปช.ขอคุมกระทรวงแรงงานต่อไป พร้อมแสดงความมั่นใจจะยกระดับเป็นกระทรวงเศรษฐกิจทำงานเข้าขากับมือกระบี่เศรษฐกิจอย่าง “สมคิด” ที่ไม่เคยได้ยิน “บิ๊กตู่” จะเปลี่ยนตัวลีลาชั้นเซียน “ลุงกำนัน” เดินหมากตีกัน “เจ้าพ่อจับกังท่าเรือแหลมฉบัง” อย่าง “เสี่ยเฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ที่ถือตั๋วทีมแห่ “บิ๊กป้อม” จองเก้าอี้รัฐมนตรีรหัส “จับกัง 1” พลังอำนาจแฝง “ลุงกำนัน” ไม่ธรรมดา นั่นจึงเป็นงานยากสำหรับ “เสี่ยเฮ้ง” หรือจะเบียดเอาโควตาของนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ยึด รมว.การอุดมศึกษาฯ ก็ยิ่งลำบาก เพราะภาพและดีกรีขัดกันอย่างสิ้นเชิง“เสี่ยเฮ้ง” ยังลูกผีลูกคน แต่ที่กองเชียร์สายรถแห่จองโต๊ะจีนล่วงหน้าก็คือ “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่พกตั๋ว “อัตโนมัติ” ต้องมีโควตาใน ครม.ใหม่ล็อกรหัส “มท.2” ยึด รมช.มหาดไทย คู่บารมี “บิ๊กป้อม” ที่จ่อยึด 2 เก้าอี้รองนายกฯควบ มท.1ตามแผน “เสี่ยแฮงค์” หวังคุมเลือกตั้งท้องถิ่น ดึงขุมทรัพย์งบฯ อปท.มาอยู่ในกำกับ แต่นั่นก็ต้องแลกกับเกมวัดดวง เบียดพี่รองอย่าง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พ้นทางปืน ไม่ง่ายถึงช็อตวัดดวง “บิ๊กตู่” จะเทน้ำหนักไปที่ “พี่ใหญ่” หรือ “พี่รอง”อีกจุดที่จะฟัดกันหนักก็คือ รมว.พลังงาน ที่ดูเหมือนชื่อ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แผ่วลงกว่าช่วงพลิกข้างแห่ “บิ๊กป้อม” เพราะชั่วโมงนี้เสี่ยพลังสูง “สปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการ” ของ 3 ป. ไม่ยอมหลีกให้แน่และต้องจับตาดีๆเก้าอี้ รมว.ดีอีเอส ที่มีแรงเขย่า “เสี่ยบี” นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผลงานไม่เปรี้ยง ไม่เข้าตากรรมการ ตามข่าววงในโยนชื่อ “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” คนดังแห่ง กสทช. ถือตั๋ว “ฟาร์มโชคชัย” มาคุม “ขุมทรัพย์ดิจิทัล” ที่ทำให้อดีตนักการเมืองรวยเป็นหมื่นล้านแต่รู้ชื่อคนที่อยู่เบื้องหลัง “บิ๊กตู่” น่าจะคิดหลายตลบ.ทีมข่าวการเมือง