มิติใหม่ ผ่านเลือกตั้งซ่อมการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาหลายครั้งหลายหน หลายเขตหลายจังหวัด ปรากฏว่าพรรคพลังประชารัฐกวาดเรียบมาทั้งหมดแต่ก็เป็นการต่อสู้เพียงแค่ 2 พรรค ไม่พลังประชารัฐกับเพื่อไทย หรือพลังประชารัฐกับอนาคตใหม่ (ยังไม่ถูกยุบ)เพราะ 2 พรรคฝ่ายค้านหลีกทางให้กันแม้กระทั่งล่าสุดที่ลำปางก็เป็นการต่อสู้เพียง 2 พรรค คือ พลังประชารัฐกับเสรีรวมไทยเนื่องจากอีก 2 พรรค ไม่ส่งผู้สมัครล่าสุดที่เขต 5 สมุทรปราการเมืองใหญ่ใกล้กรุงเทพฯ เป็นการเลือกตั้งซ่อมเมื่อ กกต. แจกใบเหลืองให้ “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเท่ากับว่ายังเปิดโอกาสให้นายกรุงศรีวิไลสามารถลงสมัครเลือกตั้งซ่อมได้ ถือว่าโทษยังไม่ร้ายแรงนักแต่รูปการณ์จะเปลี่ยนไปจากเดิมเมื่อทั้งพลังประชารัฐ เพื่อไทยและก้าวไกล (อนาคตใหม่เดิม) ประกาศที่จะส่งผู้สมัครไม่มีการหลีกทางให้กันแล้วมันจะสนุกก็ตรงนี้แหละ...การเลือกตั้งใหม่ครั้งที่ผ่านมานั้น “กรุงศรีวิไล” จากพลังประชารัฐ ได้ 41,745 คะแนน “สลิลทิพย์ สุขวัฒน์” จากเพื่อไทยได้ 33,007 คะแนน และ “ตรัยวรรธน์ อิ่มใจ” จากอนาคตใหม่ได้ 31,430 คะแนนแม้พลังประชารัฐจะชนะเลือกตั้ง แต่เทียบคะแนนกันแล้วถือว่าไม่ต่างกันมากนัก และเป็นการสู้กันระหว่าง 3 พรรคการเมืองอีกด้วยเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มีความชัดเจนแล้วว่าทั้ง 3 พรรค ประกาศชัดเจนจะส่งผู้สมัครไม่มีการหลีกทางให้กันทำท่าว่าจะสู้กันมันหยดแน่!ด้วยเงื่อนไขการเมืองที่เปลี่ยนไป เพราะพลังประชารัฐในฐานะแกนนำรัฐบาลผ่านพ้นเสียงสนับสนุนปริ่มน้ำไปแล้วเพียงแต่ต้องการเอาชนะทางการเมืองและรักษาพื้นที่เอาไว้จึงต้องส่งผู้สมัครอย่างแน่นอนเช่นกัน ในซีกฝ่ายค้านทั้งเพื่อไทยและก้าวไกลต่างก็ต้องการมี ส.ส.ที่สมุทรปราการ ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่มี ส.ส.จำนวนมาก จึงหวัง “ปักธง” ในพื้นที่นี้ให้ได้“เพื่อไทย” นั้นแม้เกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างแกนนำพรรคจนมีความเคลื่อนไหวที่จะแยกตัวไปตั้งพรรคใหม่แต่ก็ยังต้องการเอาชนะเช่นกัน เนื่องจากเมืองปากน้ำนั้น เพื่อไทยเคยยึดครองแบบยกจังหวัดมาตลอด“ก้าวไกล” ก็คงคิดอย่างนั้นไม่ต่างกัน เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็เกือบจะชนะเลือกตั้งมาแล้วเช่นกันจึงคาดหวังว่าจะช่วงชิงเพื่อสอดแทรกเข้าไปให้ได้ เพียงแต่ถอดรูปมาจากอนาคตใหม่ ซึ่งรู้กันดีว่ายังอยู่ภายใต้กรอบความคิดและอิทธิพลของอดีตผู้นำพรรคอย่างแยกไม่ออกพลังประชารัฐคงต้องว่ากันไปตามเกมเพื่อรักษาพื้นที่เดิมเอาไว้ แต่อีก 2 พรรค แม้ยังดำรงความเป็นฝ่ายค้านเช่นเดิมแต่บริบทการเมืองได้เปลี่ยนไปแล้วจึงต้องต่อสู้กันเองเพื่ออนาคตข้างหน้าที่จะต้องแย่งชิงคนรุ่นใหม่ที่ “ก้าวไกล” กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นตลอดเวลา“เพื่อไทย” หลังจากที่เกิดปัญหาภายใน เสียงสนับสนุนพื้นฐานก็ลดน้อยลงเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ใจคนก็ต้องเปลี่ยนไป.“สายล่อฟ้า”