จนถึงวันนี้ การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ยังไม่สะเด็ดน้ำ ทั้งนี้เกิดจากมาตรการของกระทรวงการคลัง ที่มี อุตตม สาวนายน เป็นรัฐมนตรีว่าการซับซ้อนยุ่งยาก และไม่เข้าถึงชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ การใช้ระบบออนไลน์ มาใช้ในการตรวจสอบสิทธิ์การเยียวยาก็ดี หรือ การกำหนดเงื่อนไข ในการให้การเยียวยา ที่แบ่งแยกประเภทจนสับสน ทั้งเกษตรกร ผู้เข้าประกันสังคม กลายเป็นการแก้ปัญหาไม่ทันกับความเดือดร้อนของประชาชนรัฐบาลต้องยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่า คนไทยที่เดือดร้อนและฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีทางออกมีจำนวนมากกว่าปกติในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นเรื่องจริง อย่าปฏิเสธโดยอ้างสาเหตุอื่นมาเปรียบเทียบ เพราะชีวิตคนไทยที่เดือดร้อนแสนสาหัส รัฐบาลยังไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกชนชั้นสาขาอาชีพทั้งๆที่การแจกเงินเยียวยาไม่ใช่เรื่องยากเย็น ที่เป็นคนไทยมีบัตรประชาชน และได้รับความเดือดร้อน โดยวัดจากฐานรายได้ ที่ต่ำกว่า 15,000-20,000 บาท บรรลุนิติภาวะ หรืออายุ 18 ปีขึ้นไป มารับเงินจากรัฐบาลไปเลย จะ 3 เดือน 5 เดือนแล้วแต่สถานการณ์การแพร่ระบาด ไม่ต้องมาตั้งเงื่อนไขให้วุ่นวาย ไม่เช่นนั้นชาวบ้านคงไม่เดือดร้อน คงไม่ต้องฆ่าตัวตายมากมายขนาดนี้นี่คือผลพวงจากประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐโดยตรงเรื่องนี้ไม่ใช่ไม่มีใครช่วยคิดหรือเสนอแนะ มีเยอะแยะ ทั้งมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน ระยะสั้น ระยะยาว แต่รัฐบาลไม่แยแส ไม่เปิดกว้างรับฟังปัญหาและข้อเสนอที่เป็นประโยชน์การออกไปแจกเงินแจกของแจกข้าวกล่องของนักแสดงบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ หรือเน็ตไอดอล หรือคนที่มีใจบุญใจกุศล อยากจะช่วยคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในยามนี้ กลายเป็นของแสลงสำหรับรัฐบาลไปฉิบ แม้จะเป็นแค่ข้าวกล่องเดียว หรือเงินแค่ร้อยบาท แต่ชาวบ้านเห็นคุณค่าและความสำคัญ กว่าเงิน 5,000 บาท ของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลคงไม่เข้าใจและเข้าถึงจุดอ่อนตรงนี้เพราะคนที่ออกไปแจกข้าวกล่อง แจกเงิน ไปแจกด้วยใจไม่ได้หวังผลตอบแทน เพราะเขาเป็นคนไทยที่เห็นอกเห็นใจพี่น้องคนไทยด้วยกัน ยิ่งรัฐบาลไปประกาศห้ามแจก อ้างผิด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน อ้างจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค หรือร้องทุกข์กล่าวโทษแจ้งข้อหากับคนเหล่านี้ ก็ยิ่งแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัวมากขึ้นอีกตัวอย่างคณะก้าวหน้า นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปจัด กิจกรรม แจกเงินให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนคนละ 3,000 บาท หรือ นักการเมืองที่จะลงไปแจกของ แจกเงินให้ชาวบ้าน ไม่มากไม่มายอะไร ปรากฏว่าทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้ง กกต. จ้องจะเอาผิดทุกเม็ดส่วนนักการเมืองประเภทมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ จะอ้างเหตุว่าฝ่ายตรงกันข้ามหวังผลทางการเมือง บนความทุกข์ของประชาชน บิดจากซ้ายไปขวาแบบหน้าด้านๆ ใช้โอกาสนี้ตั้งหน้าตั้งตาหาเศษหาเลยจากงบประมาณรัฐนี่คือประเทศไทย.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th