สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ เห็นทีจะต้องตีความสำนวน “ใส่หน้ากากเข้าหากัน” เสียใหม่ความหมายสำนวนเดิม มักใช้กันในวงสังคมหรูหรา ดารา นักร้อง ไฮโซฯ คำไฮโซตอนนี้เชยแล้ว ต้องใช้ตามสมัย “เซเลบฯ” หรือนักการเมืองเป็นที่รู้กันว่าคนพวกนี้พอเจอหน้าก็ตอหลดตอแหล ปั้นหน้ายิ้มแย้มเข้าหากันหน้ากากในบริบทนี้ เป็นหน้ากากสมมติ ไม่มีจริงแต่ “หน้ากาก” มีคำต่อ “อนามัย” ในช่วงเวลาที่เจ้าไวรัสโควิด-19 ระบาด ถึงวันนี้ก็ยังเป็นสินค้าขาดตลาด...หาซื้อในร้านขายยาราคาปกติยาก แต่แบกะดินมีขาย 20 บาทหน้ากาก เป็นสิ่งจำเป็นในสถานการณ์ที่เข้าไปอยู่ในหมู่คนจากโรงพิมพ์ ผมขึ้นรถไฟฟ้า...จะไปงานแต่งลูกสาว คุณสุภาพ คลี่ขจาย ที่โรงแรมแอทธินี ถนนวิทยุ เจอพี่ซูมพอดีได้ที่นั่งติดกันเห็นพี่ซูมสวมหน้ากากทะมัดทะแมง ผมนึกขึ้นได้ “ลืมหน้ากากไว้ที่บ้าน” พอบ่นพี่ซูมก็ยื่นหน้ากากใหม่เอี่ยมให้ บอกว่า บังเอิญ “ดำฤทธิ์” เอามาฝากให้วันก่อน ก็รอดตัวไปคราวหนึ่งพี่ซูมอายุชน 80 ผม 75 วัยนี้จะไปงานไหน การเดินทางไม่ใช่ง่ายๆ ก็ต้องหาเหตุผลอธิบายให้ตัวเองกับคุณสุภาพ พี่ซูมบอกว่า เคยเขียนกลอนส่งมาให้ลงในคอลัมน์ “ซูม” ตั้งแต่สมัยอยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาตอนนี้สุภาพ มีรายการในทีวีไทยรัฐ ก็ยิ่งนับญาติกันได้ส่วนผม...เราเป็นสหายกันในป่าน้ำหมึก...มาเนิ่นนาน วนเวียนอยู่ในสื่อต่างๆ เคยอยู่แนวหน้าด้วยกันปีหนึ่ง...ในงานเสวนาด้านสื่อ คุณสุภาพหาใครไม่ได้ ก็เคยชวนผมไปพูดผมเพิ่งรู้ตอนได้การ์ดงานแต่ง...หนังสือรวมบทกลอนของสุภาพ คลี่ขจาย ได้รับรางวัลเกียรติยศประจำปี 2560 จากสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ผมพอเขียนกลอนเป็นอยู่บ้าง โดยจริตก็ไม่ค่อยยอมให้นักกลอนคนไหน เรียกตัวว่า “กวี” ได้ง่ายๆ แต่พอได้อ่านคำนิยม...จากคุณอดุล จันทรศักดิ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์“ทุกคำกวีที่เพื่อนเขียน เทียบก็เช่นวิเชียรประกายฉายคือความงามความจริง ความพริ้งพราย...”ผมก็ต้องยอมให้สหายสุภาพ คลี่ขจาย เป็นกวีไปอีกคนถึงหน้าห้องงานเลี้ยง...มีเรื่องให้ต้องตัดสินใจ...เราจะ “ใส่หน้ากาก” เข้างานหรือไม่...พนักงานโรงแรม สวมหน้ากากกันทุกคนเจลล้างมืองานนี้ ลูบแล้วแห้งช้า...แอลกอฮอล์คงน้อย ยื่นซองใส่ตู้แล้ว ผมมองเข้าไปสบตากับสุภาพได้แว่บเดียว...ก็พอแล้ว ธรรมเนียมช่วยงาน ขอแค่เจ้าภาพเห็นหน้าก็ถือว่าพอเหตุที่สบตาสหายป่าน้ำหมึกได้แว่บเดียว มีคำอธิบาย สุภาพกำลังต้อนรับแขกผู้ใหญ่ ระดับคุณสุวัฒน์ ลิปตพัลลภอยู่ ผมกับพี่ซูมขยับตัวเดินเข้างาน ทันทีนั้นก็ต้องหยุดเพราะมีผู้ใหญ่ที่ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆก็ต้องถือว่า “ใหญ่กว่า” มาถึงพอดีท่านประธานสภาฯชวน หลีกภัย...เดินเข้างาน เจ้าหน้าที่ขอใช้เครื่องตรวจวัดไข้ที่หู...ไม่พบไข้ พี่ซูมกับผมเดินตาม ก็ถูกวัดไข้...ได้ยินเสียงบอก “36.2” ครับ เชิญแขกทุกคนผ่านจุดนี้ ถือว่าปลอดภัย...ตลอดทั้งงาน เท่าที่ผมเห็น...ผู้ใหญ่ไม่ว่าระดับไหน รองนายกฯวิษณุ คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คุยอยู่กับคุณเกียรติ สิทธีอมร ฯลฯผมขอสรุป...งานแต่งลูกสาวสุภาพ คลี่ขจาย เป็นงานที่แขกทุกคน แม้เป็นนักการเมืองต่างพรรค ต่างก็เสวนากันด้วยอัธยาศัยไมตรี ด้วยความจริงใจ ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองตอกย้ำให้สวมหน้ากากป้องกันตัวไม่มีใคร “ใส่หน้ากาก” คุยกันในงานนี้เลยสักคน.กิเลน ประลองเชิง