ช็อกความรู้สึกประชาชนคนไทยทั้งประเทศกับปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิด และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในเมืองไทย เหตุร้าย “จ่าทหารคลั่ง” สังหารคู่กรณีและกราดยิงประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 29 ศพไม่รวมคนร้าย บาดเจ็บอีกกว่า 50 รายกลายเป็นโศกนาฏกรรม “โคราชวิปโยค” เหตุเกิด ที่จังหวัดนครราชสีมาประวัติศาสตร์ต้องบันทึก แต่ไม่น่าจดจำแน่นอนไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุร้ายแรงสะเทือนขวัญ แบบที่ทั่วโลกต่างร่วมแสดงความเสียใจกับประเทศไทยที่ต้องสูญเสียชีวิตผู้คนและบาดเจ็บจำนวนมากหากเทียบกับการก่อการร้ายในต่างประเทศ ถือว่ารุนแรงพอกันแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ทางเดียวคือต้องบริหารจัดการผลกระทบจากสถานการณ์ให้ดีที่สุด เป็นหน้าที่ของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องเป็นหลักในการดูแลช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงครอบครัว ตลอดจนธุรกิจห้างร้านที่ได้รับความเสียหายจำนวนมากโดยเฉพาะการฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ต้องใช้เวลาอีก พักใหญ่ไม่ใช่แค่ผู้อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ขวัญผวารู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองและคนรอบข้างดังนั้น จึงต้องมีการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่โคราช เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลป้องกัน รับมือสถานการณ์ในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้ ที่สำคัญคือต้องไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ในสังคมไทยยุคโซเชียลมีเดียทรงอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างน้อยต้องก่อผลเชิงบวก ให้สมค่ากับ 29 ชีวิต ผู้บริสุทธิ์ที่สูญเสียไปแต่ในแง่ของผลเชิงลบ “โคราชวิปโยค” ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนเต็มๆกับรัฐบาล ในห้วงการเมืองร้อน มรสุมสารพัดลูกกระหน่ำแบบไม่ทันได้หายใจหายคอล้อคำทำนายหมอดู จังหวะดาวมฤตยูชนดวงเมืองมีแต่เรื่องร้อนๆพุ่งเข้าใส่ไม่หยุด ในอาการแบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องใส่กำไลข้อมือปี่เซียะแก้ปีชงเสริมดวง เอาเคล็ด สร้างขวัญกำลังใจเพราะขยับอะไรก็โดนด่า หนีไม่พ้นโดนกระแสถล่มโจมตี ขนาดนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยกเลิกภารกิจที่กรุงเทพฯบินไปตรวจสถานการณ์ที่เกิดเหตุในห้วงนาทีไล่เลี่ยกับเจ้าหน้าที่ทำการวิสามัญคนร้าย ยังไม่วายต้องเคลียร์เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลมีเดีย ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นไปอย่างล่าช้า จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนายกฯไปตอนจบแล้วทำอะไรได้ นอกจากเกะกะเจ้าหน้าที่นั่นไม่เท่ากับจังหวะการทำ “มินิฮาร์ท” สัญลักษณ์มือเป็นรูปหัวใจชูไปรอบทิศทางก่อนขึ้นรถหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวสรุปเหตุการณ์ ทำให้โดนกระแสโซเชียลมีเดียโจมตีอย่างหนักว่า นายกฯไม่สมควรแสดงท่าที ดังกล่าว ในช่วงเวลาของความเศร้าสลดกระตุกกระแสดราม่า เสียงโห่ฮา เสียงด่ากระหึ่มเมืองเรื่องไม่เป็นเรื่องกลายเป็นเรื่อง ทำเอา “นายกฯลุงตู่” ต้องออกโรงเคลียร์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันรู้สึกเสียใจกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้เหมือน กับคนไทยทั้งประเทศ ตั้งใจที่จะให้กำลังใจทุกคน จนบางครั้งการแสดงออกอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิด หรือรู้สึกไม่สบายใจจากเรื่องเศร้าสลด ผู้นำต้องเคลียร์ดราม่า อารมณ์หมั่นไส้และในสถานการณ์ต่อเนื่องกันกับคิวของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่เปิดแถลงกรณี “จ่าคลั่ง” ปล้นอาวุธไปก่อเหตุสังหารประชาชนและเจ้าหน้าที่ โดยได้ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบพร้อมกล่าวขอโทษและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในฐานะ ผบ.ทบ. แต่ไฮไลต์มันอยู่ตรงฉาก “หลั่งน้ำตา” จ่าฝูงกองทัพบกร่ำไห้สะอื้นระหว่างการแถลงข่าว โดยมีการออกตัวในเวลาต่อมาว่า เป็นคนอารมณ์อ่อนไหว สะท้อนอารมณ์เสียใจที่พลทหารเสียชีวิตในเหตุการณ์กลายเป็นดราม่า นัวเนียกับเสียงเรียกร้องให้ “บิ๊กแดง” ลาออกแสดงความรับผิดชอบกับความหละหลวม ปล่อยทหารปล้นอาวุธในค่ายออกมาสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจำนวนมากที่แน่ๆจากแรงกดดันเฉพาะหน้า ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ต้องประกาศสังคายนาใหญ่ลุยล้างบางธุรกิจในค่ายทหารโดยเฉพาะต้นเหตุที่มาของ “จ่าทหารคลั่ง” เพราะปม “เงินทอน” เงินกู้กรมสวัสดิการทหารบกสร้างบ้าน งานนี้ “บิ๊กแดง” ขู่ลั่นจะจัดการทุจริตโครงการบ้านสวัสดิการ การกู้เงิน การร่วมมือระหว่างหน่วยทหารกับพ่อค้ารับรองอีก 3 เดือนต่อจากนี้ ตั้งแต่ระดับนายพลถึงระดับพันเอกหลายคนไม่มีงานทำแน่แต่ที่ฮือฮาก็คือ “บิ๊กแดง” ประกาศขีดเส้นตายภายในเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ที่เกษียณแล้วยังพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ทหาร และย้ายจากกองทัพบกไปอยู่หน่วยงานใด ต้องย้ายออกคืนบ้านหลวง เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีบ้านมาอยู่ซึ่งนั่นก็เหมือนเป็นการโยนทุ่นใส่คนกันเอง เพราะกระแสหันไปจับจ้องที่ พล.อ.ประยุทธ์ กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ 2 บิ๊กรัฐบาลในทันทีในฐานะอดีต ผบ.ทบ.ที่ยังมีบ้านพักอยู่ในค่ายทหาร เรื่องของเรื่องโดยสถานการณ์เชิงกระแส ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุวิปโยคโคราชทำให้ทหารถูกมองเป็น “ผู้ร้าย” ตอกย้ำอารมณ์เบื่อท็อปบูตที่ครองเกมอำนาจยาวนานเข้าทางเหลี่ยมขั้วการเมืองฝ่ายต้านท็อปบูตที่ได้จังหวะเบิ้ลทันทีปรากฏการณ์อย่างที่ทีมงานพรรคเพื่อไทย ลูกข่าย “ทักษิณ” รุมขย่ม “บิ๊กตู่” แสดงท่าทีไม่เหมาะสมแทนที่จะยืนไว้อาลัยเหยื่อเหตุการณ์โคราชวิปโยค กลับทำมินิฮาร์ทผิดกาลเทศะโจมตีพฤติการณ์ไร้ภาวะผู้นำโดยสิ้นเชิงและจังหวะได้ทีขี่แพะไล่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ชิงตั้งกระทู้สดบี้ถามนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถึงความล่าช้าในการระงับเหตุ และเหตุผลที่ไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์ซัดหากกองทัพบกระงับเหตุได้ตั้งแต่ในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ความสูญเสียจะไม่มากเช่นนี้ขณะที่ท่าทีของทีมอนาคตใหม่ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันตามเหลี่ยมแบบที่ “ไพร่ห้าพันล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าค่ายสีส้ม ได้ทีนัดระดมพลร่วมแสดงออกถึงความหวังของประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในกองทัพ ในวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์จัดอีเวนต์ “จากโคราชสู่การปฏิรูปกองทัพ” ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาในมุมที่สื่อบางสำนักพาดหัว “ธนาธร” โหนเหตุกราดยิงโคราชเพราะโดยจังหวะก้ำกึ่งพอดี ยุทธการฉวยเหตุ “จ่าทหารคลั่ง” ปลุกกระแสต้านอำนาจกองทัพของหัวหน้าค่ายสีส้ม มันก็โยงไปถึงการยื้อสู้คดียุบพรรคอนาคตใหม่ดีเดย์ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตาวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้มันจึงเป็นอะไรที่สอดรับกันโดยเงื่อนไขสถานการณ์ “ธนาธร” ต้องพยายามทุบทำลายความชอบธรรมอำนาจทหาร ที่เจ้าตัวเชื่อโดยปักใจว่าเป็นต้นเหตุพรรคอนาคตใหม่สะดุดบนเส้นทางประชาธิปไตยอนาคตใหม่ เพื่อไทย ชิงเหลี่ยมลูกเข้าทางปืนและแน่นอน โดยปม “โคราชวิปโยค” ต้องลากยาวไปถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสถานการณ์ที่เดาทางพรรคเพื่อไทย ทีมอนาคตใหม่ และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต้อง “จัดหนัก” ขึงพืด “พี่น้อง 3 ป.” พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร รวมถึง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยได้เวลาทวงบัญชีแค้นแบบทบต้นทบดอกตามรูปการณ์อย่างที่โยนหินนำร่องกันไว้ จะขุดผี ย้อนอดีตไปชำแหละยุค คสช.ที่นำโดย “ประยุทธ์–ป้อม–ป๊อก” ทำรัฐประหารโค่นกระดานรัฐบาลอดีตนายกฯ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ไล่นักการเมืองอาชีพนั่งข้างสนาม ดองเค็มยาว 5-6 ปีแถมยังออกแบบรัฐธรรมนูญสกัดทีม “ทักษิณ” เอื้อท็อปบูตลากยาวอำนาจเปลี่ยนผ่านงานนี้ยังไงก็ต้องล็อกเป้าจับตาย “3 ป.” กับ “1 ด.-บิ๊กแดง”ในจังหวะสถานการณ์ที่ “นายกฯลุงตู่” กำลังเมากระแสเบื่อทหาร ในอาการที่กองทัพยุค “บิ๊กแดง” กุมบังเหียนเป็นกำแพงแน่นๆให้รัฐบาลก็โดนแรงกระแทกชิ่งจนจ่าฝูง ทบ.ออกลูกเป๋“วิปโยคโคราช” เขย่าเกมอำนาจสะท้านกองทัพ สะเทือนรัฐบาล.ทีมการเมือง