ภาพ : University of Hawaiiการวิจัยก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาข้อมูลจากยานอวกาศแคสสินี ชี้ให้เห็นว่าชั้นบรรยากาศของดวงจันทร์ไททัน จันทร์บริวารดวงใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์ ประกอบด้วยโมเลกุลของสารอินทรีย์บางอย่างทำจากอะตอมคาร์บอนสายยาว สิ่งนี้นำไปสู่ทฤษฎีที่ว่าโมเลกุลของสารอินทรีย์ตกลงมาจากชั้นบรรยากาศและก่อตัวเป็นเนินทราย ปกคลุมส่วนหนึ่งตรงแถบเส้นศูนย์สูตรของไททันแต่เมื่อเร็วๆนี้ นักวิจัย 3 คน และมหาวิทยาลัยฮาวาย ในสหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาทฤษฎีใหม่เพื่ออธิบายการก่อตัวเนินทรายบนไททัน ว่าน่าจะเกิดขึ้นผ่านรังสีคอสมิกที่มากระทบกับอะเซทิลีนที่อยู่ในสถานะน้ำแข็ง ทำให้เกิดปฏิกิริยานำไปสู่การก่อตัวของวัตถุที่ประกอบเป็นเนินทราย ทีมได้ทดสอบทฤษฎีด้วยการสร้างกลุ่มของอะเซทิลีนในห้องปฏิบัติการ และโจมตีด้วยรังสีที่คล้ายกับบนไททัน จากนั้นก็อุ่นน้ำแข็งจนระเหยออกจากวัตถุทำจากโมเลกุลของสารอินทรีย์ที่เชื่อกันว่าก่อตัวเป็นเนินทรายบนไททันผลพบว่ากระบวนการนี้สามารถผลิตสารประกอบไม่อิ่มตัวอย่างฟีแนนทรีน (Phenanthrene) ได้ในเวลากว่า 100 ปี ขณะที่โมเลกุลอื่นๆจะใช้เวลานาน อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ แต่นักวิจัยเชื่อว่าจะได้คำตอบแน่ชัด และฝากความหวังกับแผนการส่งโดรนแมลงปอ (Dragonfly) ไปยังไททันขององค์การนาซา ซึ่งมีกำหนดจะลงจอดใกล้เนินทรายบนไททันในปี พ.ศ.2577.