“รายงานวันจันทร์”-รายงานตัวผ่านแอปฯ-โบกรถ-ช่วยเด็กข้ามถนนปัจจุบันตำรวจจราจรในกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีกำลังราว 3,800 นาย นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบดูแลในเขตกรุงเทพฯ และรอยต่อจังหวัดปริมณฑล ขณะที่ความพยายามที่จะนำระบบเทคโนโลยีมาช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจราจรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก็ยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ในการนี้ บช.น.จึงดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลจัดการจราจร ผ่านโครงการ ฝึกอบรมอาสาจราจร เพื่อช่วยเหลือแก้ปัญหาจราจรโครงการนี้มีรายละเอียดอย่างไร “รายงานวันจันทร์” มีคำตอบจาก พ.ต.อ.กิตติ อริยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร (รอง ผบก.จร.) ในฐานะโฆษก บก.จร. มาชี้แจงให้ทราบ------------------------ ถาม-หลักการและรายละเอียดของโครงการเป็นอย่างไรพ.ต.อ.กิตติ-บช.น.ได้มอบให้ บก.จร.จัดทำโครงการฝึกอบรมอาสาจราจร โดยร่วมกับเครือข่ายภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่าย โดยทาง บก.จร.ได้เปิดรับสมัครประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีคนสนใจมาสมัครจำนวนมาก โดยจะมีการทดสอบความรู้เบื้องต้น และทดสอบด้านจิตใจว่ามีจิตสาธารณะมากน้อยแค่ไหน คนที่ผ่านการทดสอบจึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการอบรม สำหรับหลักสูตรการอบรมให้กับอาสาจราจร ประกอบด้วย ความรู้ด้านกฎหมายจราจร หลักการสังเกตบุคคล การปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อรายงานสภาพการจราจรและอุบัติเหตุผ่านแอปพลิเคชัน เป็นต้นถาม-อบรมมาแล้วกี่รุ่นพ.ต.อ.กิตติ-ปัจจุบัน บก.จร.ได้จัดอบรมอาสาจราจรไปแล้วจำนวน 4 รุ่น รุ่นละ 150 คน รวมจำนวน 600 คน ผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้รับใบประกาศ พร้อมด้วยเสื้อสะท้อนแสงมีข้อความอาสาจราจร สำหรับใส่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้ได้ส่งอาสาจราจรไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนับสนุนกำลังตำรวจจราจรตามความสมัครใจและความสะดวกในการเดินทาง ให้กับกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 โดยจะเน้น บก.ที่รับผิดชอบในพื้นที่สำคัญ สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า และสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆที่มีประชาชนเดินทางมาร่วมจำนวนมากในการนี้ 3 อันดับแรกที่มีการขอกำลังอาสาจราจรมากสุด ได้แก่ อันดับ 1 บก.น.1 จำนวน 88 คน ในจำนวนนี้ สน.ชนะสงครามขอสนับสนุนมากที่สุด จำนวน 39 ราย ส่วนใหญ่ดูแลจัดการจราจรบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก รองลงมา สน.พญาไท จำนวน 19 คน มีสถานศึกษาและห้างสรรพสินค้าใหญ่หลายแห่ง ตามด้วย สน.ห้วยขวาง จำนวน 18 คน เป็นย่านชุมชนและธุรกิจ อันดับ 2 บก.น.2 จำนวน 65 คน มากสุด สน.ประชาชื่น 19 คน ตามด้วย สน.บางเขน 13 คน และ สน.ทุ่งสองห้อง 9 คน อันดับ 3 บก.น.7 มากสุด สน.บางพลัด 20 คน สน.ตลิ่งชัน 19 คน สน.บางขุนนนท์ 5 คน ทั้งนี้ บก.น.8 ขอสนับสนุนน้อยสุดเพียง 10 คน แบ่งเป็น สน.ทุ่งครุ 4 คน สน.บุปผาราม 4 คน สน.บางยี่เรือและ สน.สมเด็จเจ้าพระยา สน.ละ 1 คนถาม-มีมาตรการควบคุมอาสาจราจรไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางหรือไม่พ.ต.อ.กิตติ-หน้าที่หลักๆของอาสาจราจร จะเน้นด้านการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เช่น การโบกรถ การพาคนเดินข้ามถนน การช่วยเหลือผู้ป่วย เป็นต้น และทุกครั้งที่ออกปฏิบัติหน้าที่จะต้องมีการรายงานตัวผ่านทางแอปพลิเคชัน M Help Me โดยระบุวัน เวลา สถานที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการติดตามและประเมินผลตัวอาสาจราจร โดยจะมีรางวัลให้กับคนที่ตั้งใจและมีผลงานยอดเยี่ยม เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจส่วนคนที่ไม่มีผลงานจะพิจารณาปรับเปลี่ยนไปทำหน้าที่อื่น หรือถ้ามีปัญหาทำให้หน่วยงานเสื่อมเสียก็จะยกเลิกการเป็นอาสาจราจรทันที อย่างไรก็ตาม อาสาจราจรรุ่นนี้จะต่างจากอาสาจราจรรุ่นเก่า ที่เน้นอบรมแต่ไม่เน้นติดตามและประเมินผลอย่างเป็นทางการ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรบ้างจึงถูกมองว่าเป็นโครงการฉาบฉวย ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อย่างจริงจัง.