ช่างตัดผมสาวทอมบอยแนววินเทจ คิดสั้นใช้ปืนยาวขนาด .22 ยิงเข้าปากตัวเองทะลุท้ายทอยดับ ที่เกิดเหตุพบจดหมายลาตาย 2 ฉบับ พี่สาวให้การ น้องเป็นคนอ่อนไหวกับโลกโซเชียล จริงจังกับข้อความคอมเมนต์ของลูกค้า เคยปลอบประโลมหลายครั้ง สุดท้ายไม่เป็นผลช่างตัดผมสาวทอมบอยยิงตัวตาย เปิดเผยเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ร.ต.อ.สุภณ ตรงบรรทัด รอง สว. (สอบสวน) สน.บางเสาธง รับแจ้งเหตุยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 736/2 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.อัครสรณ์ กิจพ่วงสุวรรณ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นรเศรฎฐ์ เดชอุ่ม สวป.เจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง บนพื้นห้องนอนพบศพ น.ส.พัชรี เดชพันพัว อายุ 42 ปี ฉายาอ๊อบ ตัวโปรด ช่างตัดผมมือดีของร้านหัวกบาล ในตลาดสายใต้ใหม่ สภาพนอนตะแคงขวาจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีขาวแจ็กเกตยีนส์คลุมทับ สวมกางเกงขาสามส่วนสีดำลายทาง รองเท้าหนัง มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด.22 เข้าในปากทะลุท้ายทอย 1 นัด แรงกระสุนทะลุเพดานจนเป็นรู ใกล้กันพบปืนยาวขนาด .22 ยี่ห้อซีแซด ตกอยู่ข้างกาย พร้อมตลับสายไฟยาวประมาณ 3 เมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เป็นตัวรั้งไกปืน บนเตียงนอนพบเสื้อ กางเกง รองเท้าวางอยู่รวมกัน 1 ชุด พร้อมถุงใส่เสื้อผ้า และยังพบจดหมายลาตาย 2 ฉบับ มีใจความว่า “รบกวนใส่ชุดนี้นะ ที่วางอยู่บนเตียง แล้วเอาถุงเสื้อผ้าที่วางไว้บนเตียงใส่ไปในโลง แล้วเผาพร้อมไปด้วยนะ *เหมียว รูปที่คิดว่าพี่ดูดีเอาไปใส่กรอบให้หน่อยนะ ใส่เสื้อทับนะไม่ต้องใส่เสื้อใน รักพ่อ แม่ แอ๋ม โอ๊ด แอ๊ดมากนะ และรักทุกคน ดูแลกันดีๆ” ส่วนฉบับที่ 2 มีข้อความว่า “อย่าเสียใจ คนเราเกิดมา ก็ต้องตาย เครียดเรื่องชีวิต” จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานสอบสวน น.ส.จรรศจี เดชพันพัว อายุ 43 ปีพี่สาวผู้ตาย ให้การว่า น้องสาวมีลักษณะเป็นสาวทอมบอย หน้าตาดี เรียนจบด้านศิลปะมาจากโรงเรียนเพาะช่าง ถนัดการวาดลายไทย และยังเรียนจบที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาอีกด้วย ทุกวันนี้เป็นช่างตัดผมแนววินเทจ ที่ร้านหัวกบาล ในตลาดสายใต้ใหม่ มีลูกค้าประจำมากมาย และหารายได้พิเศษจากการขายเสื้อผ้า กระเป๋าผ้าที่ตัวเองเพนต์ลายและปักเองทางออนไลน์อีกด้วย ทางบ้านกำลังเตรียมเปิดร้านตัดผมให้ในบ้านริมคลอง เกือบจะก่อสร้างอาคารเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก่อนเกิดเหตุช่วงทุ่มครึ่ง วันที่ 20 ก.ย. น้องสาวเดินมากินข้าวที่บ้านตน อยู่ติดกับบ้านที่น้องสาวพัก ที่ผ่านมาน้องสาวมีท่าทางซึมเศร้ามาได้ 2-3 วันแล้ว ปกติน้องสาวเป็นคนอ่อนไหวกับโลกโซเชียลมาก มักมาบ่นกับตนว่าทำไมคนที่มาแสดงความคิดเห็นต้องใช้คำคำเดียวกับที่เขาใช้ด้วย เช่น คำว่า ขำขำ ตนจึงบอกกลับไปว่า มันเป็นคำสาธารณะใครจะใช้ก็ได้อีกทั้งน้องสาวยังจริงจังกับเรื่องข้อความคอมเมนต์ของลูกค้าที่มีลักษณะต่อว่าเรื่องสินค้าที่โพสต์ขายมาก ตนได้พยายามปลอมประโลม บอกว่าทุกเรื่องที่เครียดเป็นเรื่องเล็กๆทั้งนั้น แต่กลับถูกย้อนกลับว่า เรื่องเล็กสำหรับคนอื่นแต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขานะ ก่อนจะเดินกลับบ้านไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. ญาติข้างบ้านได้ยินเสียงเหมือนของตก ไม่คิดเลยว่าเป็นเสียงปืน จนถึงช่วงเช้าเอะใจ จึงเดินไปดูพบว่า น้องแอบเอาปืนของพ่อมายิงตัวตายเสียแล้วเบื้องต้นตำรวจได้มอบศพให้กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งนิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง