ไม่ว่าปมประเด็นทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้ง การเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือ การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ จะออกหัวออกก้อยอย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องพยายามประคับประคองรัฐนาวาต่อไปอีกอย่างน้อยก็ต้องผ่าน งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้มีปัญหาสุญญากาศในการบริหารที่ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะต้องแลกกับข้อครหาทางสังคม ต้องแลกกับการต่อรองผลประโยชน์จากฝ่ายการเมือง และต้องแลกกับการปรับ ครม.หรือตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆเพื่อให้ไม่ต้องลาออกหรือยุบสภาในตอนนี้การที่มี ซินแสชื่อดัง บางคนที่ได้รับรางวัลตำแหน่งทางการเมือง หรือ นักการเมืองบางคน ที่เคาะราคาตัวเอง ประกาศรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ยาวถึง 8 ปี แบบไม่มีเหตุมีผลเป็นแค่จิตวิทยาเอาใจผู้นำในทางปฏิบัติ ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเจอการตรวจสอบจากฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองอย่างถี่ยิบทุกเรื่องเข้าตำราผลประโยชน์ขัดกันก็บรรลัยการซื้อขายตำแหน่ง การทุจริตภายในองค์กร การขาดคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การถือหุ้นสื่อและ การตรวจสอบจากภาครัฐ ป.ป.ช. หรือ สตง. กระบวนการยุติธรรม ศาลเลือกตั้ง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่คดีร้องเรียนยังคาราคาซังอีกเป็นกระบุง ยืดเวลาอย่างไรก็ไม่รอดประเด็น การแก้รัฐธรรมนูญ จะเป็นกุญแจสำคัญ ไขปริศนาอายุของรัฐบาลชุดนี้ ที่ถึงเวลาทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน จะต้องจับมือกันโดยปริยาย ความมีเสถียรภาพของพรรคการเมือง ที่รวมตัวกันเฉพาะกิจก็ดี ผลประโยชน์ไม่เป็นไปตามข้อตกลงก็ดีรอเวลาพ่นพิษสุดท้ายคือ ความเดือดร้อน ปัญหาปากท้องของประชาชน ถ้ารัฐบาลเกาไม่ถูกที่คัน แก้ปัญหาไม่ตรงจุด งบประมาณรั่วไหลลงไปไม่ถึงมือชาวบ้าน ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำอยู่แล้วยังมาเจอกับภัยธรรมชาติ น้ำแล้งน้ำท่วมอย่างรุนแรงต่อให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะมีกองหนุนดีแค่ไหน ก็ไปไม่รอดอยู่ดี เพราะรัฐบาลชุดนี้ถ้าไม่มีกองหนุนจากประชาชน ถึงจะมีอำนาจล้นฟ้าแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ ถ้ายิ่งเหลิงอำนาจด้วยแล้วไปไม่กลับ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th