เผย "จ๊ะจ๋า" ร่วมทริป "แพทย์อาสา" ดีใจเลือกคนไม่ผิดหลังจากทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแฟนสาว จ๊ะจ๋า-พริมรตา แต่งงานบนยอดเขาทิเบต ตั้งแต่กลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจอ นักร้อง-นักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ จิ๊บ-วสุ แสงสิงแก้ว ร่วมพิธีบวงสรวงละคร “ดวงใจขบถ” และ “มธุรสโลกันตร์” ที่ช่อง 7 เลยต้องอัปเดตงานแต่งคืบหน้าไปถึงไหนแล้วหนุ่ม จิ๊บ เผยว่า “เอาจริงๆรูปแบบงาน สถานที่ เรามีลิสต์ขึ้นมาแล้วเพียงแต่ว่า สรุปสุดท้ายยังไปไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา โดนเรื่องงานทั้งละครเวทีและงานอื่นๆเอาเวลาเราไปหมดเลย แต่ได้เริ่มทำไปแล้วคือสำรวจสถานที่”วันสรุปแน่นอนหรือยัง?“วันสรุปเอาไว้คร่าวๆคือ ก่อนหน้าใช้ฤกษ์สะดวก ถ้าไม่ทันปลายปีนี้ก็เลื่อนไปอีกแต่คงไม่นาน ตอนนี้เริ่มมีแพลนเอ บี ซี เริ่มแตกออกมาแล้ว ตอนนี้กำลังดูอยู่ว่าจะจัดงานเป็นธีมไทยกับธีมสากล เพราะการเตรียมตัวก็จะไม่เหมือนกัน มีหนึ่งอย่างคุยกับเค้าไว้คร่าวๆ หลังจากงานแต่งที่เมืองไทยผ่านเสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้ามีโอกาสเดินทางไปที่ไหน ยังคุยกับเค้าน่าจะลองไปแต่งตามประเพณีของแต่ละวัฒนธรรมที่เราอยากไปเที่ยว สมมติเราไปอียิปต์เค้าจะมีธีมจัดให้เราแต่งเป็นฟาโรห์อะไรแบบนี้ขี่อูฐถ่ายพีระมิดมันก็น่ารักดี เพื่อนๆที่เป็นฝรั่งหลายคนที่รู้จักเค้าทำกันนะ ได้เติมสีสันให้กับชีวิตคู่ได้เรื่อยๆ” ถือว่าจ๋ามาลบลายคาสโนว่าในตัวพี่จิ๊บหรือเปล่า?“ชีวิตคนเราต้องผ่านอะไรมานะ ถ้าเป็นยุคสมัยใหม่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายแหละ ภาษาอังกฤษเค้ามีคำ นิทานเจ้าชายกบ คือคุณต้องจูบกบหลายตัวหน่อยกว่าจะเจอเจ้าชาย เหมือนกันชีวิตคนที่บางทีการที่เราตั้งแต่สมัยวัยหนุ่มสาวเจอบุคคลที่ใช่เลยถือว่าเป็นรางวัลชีวิตมากๆ แต่หลายคนๆที่ไม่ได้โชคดีอย่างนั้นตั้งแต่แรก สมมติผมไปเจอเค้า 10-20 ปีข้างหน้า ความคิดผมอาจจะไม่ใช่แบบนี้ ถ้าเจอกันเร็วกว่านี้ก็จะไม่ใช่อยู่ดี”ล่าสุดจ๊ะจ๋าเป็นทีมหมอกระเป๋าแพทย์อาสา พี่จิ๊บรู้มาก่อนมั้ย?“ผมเป็นคนติดต่อให้เค้าเอง” ไม่หวงจ๊ะจ๋าเหรอเพราะเส้นทางที่ไปค่อนข้างลำบาก?“จริงๆถ้าจะมาเป็นคู่ชีวิตกัน อันนี้คืออีกสิ่งที่ผมอยากเห็น ผมผ่านเรื่องเล่านี้มาหมดแล้ว มันเป็นอีกหนึ่งบริบทในชีวิต นัดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่มกราคม วันที่ครบรอบคุณพ่อผมเสีย มูลนิธิชีวิตพัฒนาของสมเด็จย่า ตอนนี้อาหมอยุทธ โพธารามิก เป็นเลขาธิการมูลนิธิ พอ.สว. ผมพาจ๊ะจ๋าไปกราบอาหมอมา ซึ่งโครงการอันนี้พี่น้องสายผมทุกคนเคยไปสัมผัสมาหมดแล้ว สิ่งที่หลายๆคนไม่ทราบจ๋าเค้ามีความเป็นนักกิจกรรมจิตสาธารณะ เค้าเป็นคนยกมือตั้งแต่แรกเค้าอยากไป ผมก็ถามจริงหรือเปล่า ถ้าจริงผมสามารถเชื่อมให้ได้แต่ไม่รับปากนะว่ายูจะผ่านเกณฑ์หรือไม่ผ่าน สุดท้ายผ่านทุกกระบวนการ ผมแนะนำการขึ้นดอยหน้าฝน เจอทาก ไม่มีใครไม่โดน เราก็เล่าให้ฟังว่าเป็นยังไง เจอห้องน้ำที่ไม่ได้สุขอนามัย เค้าบอกพร้อมเต็มที่ ก่อนไปผมเขียนการ์ดให้เค้าเห็น จ๋าภาคภูมิใจได้เต็มเปี่ยม ได้กำลังใจจากคนบ้านพี่และตัวพี่ สิ่งเหล่านี้เงินทองเท่าไหร่ก็หาซื้อไม่ได้ ช่วงที่จ๋าอยู่ที่โน้นเราติดต่อกันไม่ได้ กลับมาผมก็ถามเป็นยังไง ได้อ่านใช่มั้ยที่พี่เขียน จ๋าก็ตอบกลับมา ไม่ต้องห่วงค่ะ ไม่ใช่แค่จ๋า คุณหมอทั้งคณะที่ได้ไปจ๋าให้ทุกคนอ่านหมดเลย ถ้ากะเหรี่ยงแถวนั้นอ่านภาษาไทยได้คงเอาให้เค้าอ่านด้วย โอ๊ย ไอ้ตัวแสบ (หัวเราะ) แทนที่จะเซฟความโรแมนติกเอาไว้สำหรับคนสองคน จ๋าบอกทำไมล่ะ? จ๋าภูมิใจจะตายไปที่พี่เขียนจ๋าให้ทุกคนอ่านหมดเลย พี่ต้องขอบคุณจ๋าที่ไม่ถ่ายจดหมายลงโซเชียล โอ้โห! เอาอะไรมาคิด คิดได้ยังไง (หัวเราะ) คนละเจนจริงๆ ผมเรียกเพ็ดเนมกัน จ๋อของพ่อ เป็นศัพท์เฉพาะสองคน เที่ยวนี้เค้าได้เพื่อนกลุ่มใหม่อีกหนึ่งกลุ่มที่มีคุณภาพชีวิตสูง ผมดีใจมาก เราเลือกคนไม่ผิด เราดูคนไม่ผิด เป็นประเภทจับจด หยิบโหย่งเค้าจะอยู่ตรงนี้ไม่ได้ มันก็คงเข้ากับเราไม่ได้อีกหนึ่งส่วน”.