พยายามหลบเลี่ยงติ๊ดชึ่งอยู่นาน ในที่สุด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็ยอมเปิดปากพูดถึงเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 161 กรณีนำคณะรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ถูกฝ่ายค้านรุกหนักขู่จะเอาเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯนายกฯตู่ชี้แจงเรื่องนี้ว่า “ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการในการถวายสัตย์ฯ ต่อหน้าพระมหากษัตริย์ ซึ่ง ณ ตรงนั้นก็เสร็จไปแล้วว่าจะต้องทำอะไรในการดูแลประชาชน ข้อความต่างๆ ที่พูดไปแล้วถือว่าครอบคลุมทั้งหมด และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญในการดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย ที่สำคัญที่สุดเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งพระองค์ท่านรับสั่งมาให้ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งตรงกับรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าทำเพื่อประชาชนทั้งเพื่อประเทศ ผมคิดว่าเรื่องนี้ควรจบดีกว่า อย่าให้บานปลาย หลายคนในนั้นก็เป็นทหาร ขอร้องว่าเคยเป็นพี่น้องกันมา อย่าให้การเมืองมาทำให้ประเทศชาติปั่นป่วนไปทั้งหมด ถ้าจะดีหรือไม่ดีอย่างไรก็ให้รอเลือกตั้งคราวหน้าก็แล้วกัน”ฟังแล้วรู้สึกเคลียร์ชัดแจ้งหรือไม่อย่างไรบ้าง ผมขออนุญาตไม่วิจารณ์ขยายความต่อ แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่าพอฝ่ายค้านเปิดเกมเร็วขู่ยื่นจะอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน ก.ย. ชิงตัดหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ก็ทำให้บิ๊กตู่ต้องรีบออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงต่อสาธารณชนทันทีด้วยสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เวลาประชุมสภาฯทุกนัด รัฐบาลจึงมีความเสี่ยงตลอดเวลาที่จะเพลี่ยงพล้ำต่อฝ่ายค้าน ดังนั้น ถ้าขืนปล่อยให้ฝ่ายค้านเปิดเกมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ดีไม่ดีรัฐบาลบิ๊กตู่ 2 อาจปิดฉากลงก่อนเวลาอันควร เพราะยังมีปมกฎหมายว่ารัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.จะมีสิทธิโหวตลงคะแนนหรือไม่ เนื่องจากอาจเข้าข่ายมีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งมีจำนวนถึง 14 คนหรือแม้กระทั่งการประชุมวาระปกติ พิจารณากฎหมายหรือญัตติทั่วไป หากรัฐบาลโหวตแพ้ฝ่ายค้าน หรือองค์ประชุมล่มบ่อยๆ ไม่เพียงชาวบ้านเบื่อหน่ายเอือมระอา นักลงทุนก็จะพานหนีหายเอาด้วย เพราะเสถียรภาพง่อนแง่น ความเชื่อมั่นหดหายพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแรก ตามด้วยพรรคประชาธิปัตย์ ที่แสดงสปิริตช่วยบรรเทาปัญหาเสียงปริ่มน้ำ โดยประกาศให้รัฐมนตรีที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อทุกคน (ยกเว้นหัวหน้ากับเลขาธิการพรรค) ต้องลาออกจาก ส.ส. เพื่อขยับอันดับถัดขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนเพื่อรักษาเสียงโหวตในสภาฯส่วนพรรคพลังประชารัฐทั้งๆที่เป็นแกนนำรัฐบาลแท้ๆ จนป่านนี้ยังไม่มีมติแบบนี้ออกมาเลย และดูเหมือนจะไม่แยแสด้วย ล่าสุด คุณพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้ข่าวว่า ที่ประชุมยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐเห็นว่า รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ไม่จำเป็นต้องลาออก เพราะเห็นว่าจะสามารถเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติพอนักข่าวซักว่าถ้าการประชุมสภาฯกับงานของรัฐมนตรีตรงกันจะทำอย่างไร คุณพุทธิพงษ์ตอบว่า เราพยายามมาประชุมที่สภาฯให้ได้ เพราะรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 5 คนเห็นตรงกันว่าไม่จำเป็นต้องลาออก เชื่อว่ารัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.สามารถลงมติในสภาฯได้อยู่แล้วโถๆๆถ้ามีสปิริตไม่ต้องรอมติพรรคก็ได้ ดูอย่าง คุณนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พอรู้ว่าจะได้เป็น โฆษกรัฐบาล แม้ยังไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ก็ประกาศ ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทันทีเอาเป็นว่าต่อไปถ้าสภาฯล่ม คงต้องรีบเช็กชื่อรัฐมนตรีคนไหนโดดประชุมบ้าง.ลมกรด