“ขอให้ช่วยสร้างภาพลักษณ์สภาผู้แทนราษฎร”นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยกคำพูดของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งฝากให้ ส.ส.ทุกคนในฐานะเป็นตัวแทนของประชาชน ทำหน้าที่ในสภาฯเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชน และทำให้สภาฯเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดปัญหาของประชาชนยิ่งรอบนี้มีนักการเมืองหน้าใหม่เยอะมาก ดูบรรยากาศการประชุมแต่ละครั้งที่ผ่านมา ถือว่าใช้ได้บางที ส.ส.ใหม่อาจไม่รู้ประเพณีหรือระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาฯ เมื่อคลอดออกมาเป็นเรื่องเป็นราว ผู้แทนเหล่านี้เป็นคนเรียนรู้เร็ว มีความมุ่งมั่น กล้าอภิปรายสะท้อนปัญหาของประชาชน ไม่เหมือนการเมืองสมัยก่อน เรากลัวพูดในที่ประชุมสภาฯบรรยากาศการประชุมสภาฯก่อนถูกปฏิวัติ เป็นความขัดแย้งทางความคิดอีกรูปแบบหนึ่ง แต่สภาฯในยุคนี้มีแนวโน้มปะทะทางความคิด ระหว่างฝ่ายอนุรักษ์กับฝ่ายก้าวหน้า ก็ยิ่งตอกลิ่มสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นได้ นายสุชาติ บอกว่า การประชุมสภาฯเป็นสถานที่ถกเถียงทะเลาะกันทางความคิด เพื่อหาข้อยุติหรือทางออกที่ดีที่สุดไม่เช่นนั้นจะมีรัฐบาลและฝ่ายค้านเพื่อโหวตลงมติแต่ละเรื่องทำไม ความคิดสุดโต่งคนละขั้ว อาจทำให้การอภิปรายไม่ลงรอยหรือไม่ยอมกันในสภาฯมีมากขึ้น ก็คงไม่ใช่ปัญหาเพราะมีระเบียบข้อบังคับการประชุมอยู่ ขอให้เคารพกติกา อย่าอภิปรายนอกเหนือข้อบังคับถกเถียงรุนแรงแค่ไหน คงไม่ถึงขั้นทะเลาะชกตีกันเหมือนสมัยก่อนถูกปฏิวัติ ครั้งนั้นรุนแรงสุดๆแล้ว ภาพอย่างนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกยิ่งระหว่างอภิปราย สังคมโซเชียลมีเดียก็เกาะติดอย่างใกล้ชิด เท่ากับประชาชนให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นเขามีสิทธิที่จะวิจารณ์ ส.ส.ท่านใดประพฤติตัวไม่ดี ย่อมถูกสังคมโซเชียลรุมประณาม ผมว่าดีเสียอีกแต่ผู้ที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมก็ต้องควบคุมให้สมาชิกปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ หากผู้อภิปรายยังดื้อดึงอยู่ ในที่สุดเขาก็จะเสียหายไปเองและในฐานะที่กำกับดูแลสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รวมถึงระบบสารสนเทศ ก็จะพยายามพัฒนาระบบให้ข้อมูลข่าวสารถึงมือประชาชนได้ทั่วประเทศ ทั้งผ่านไอโฟน วิทยุและโทรทัศน์เชื่อมกับเคเบิลต่างจังหวัดแถมมีแนวคิดทำรายการโทรทัศน์ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ทั้งตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน สมมติโครงการลงทุนรถไฟรางคู่หรือมอเตอร์เวย์ ก็ควรตรวจสอบว่ามีประโยชน์ต่อประเทศชาติหรือไม่ เหมาะสมอย่างไรเพื่อต้องการให้รัฐบาลใช้งบประมาณด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นหากหมู่บ้านหรือชุมชนไหนมียาบ้า หรือไม่มีถนนเข้าถึง เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เหลียวแล และดำเนินการแก้ไข สภาฯอาจจะต้องมีรายการโทรทัศน์รัฐสภา สำหรับรับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน เพื่อเป็นช่องทางบอกให้รัฐบาลรับทราบขณะเดียวกันจะปรับปรุงเว็บไซต์สภาฯให้ทันสมัย ใครต้องการข้อมูลคลิกกดดูได้ทันที อาทิ เนื้อหาของกฎหมายฉบับที่ประกาศบังคับใช้แล้ว ร่างกฎหมายต่างๆที่เข้าสภาฯอยู่ในขั้นตอนไหน ประวัติ ส.ส.500 คนเป็นอย่างไรเช่น กดที่รูปภาพเป็นหน้านายสุชาติ ตันเจริญ ก็ทราบทันทีว่าอภิปรายเมื่อไหร่ โหวตกี่ครั้ง เคยอภิปรายอะไรบ้าง ขาด ลาประชุมกี่ครั้งรู้หมด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ควรเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ ตรวจสอบได้ทั้งหมดต้องการทำงานเชิงรุก เหมือนกับสิ่งที่ผมใฝ่ฝันอีกอันหนึ่งคือ ใช้บทบาทของสภาฯทำงานคู่ขนานกับรัฐบาลในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ว่านายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี ประธานสภาฯ รองประธานสภาฯของประเทศต่างๆก็มาจากพรรคการเมืองเมื่อเดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ควรใช้การเมืองกับการเมือง เจรจาเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลในเรื่องระหว่างประเทศ เพราะบางเรื่องหากใช้บทบาทรัฐบาลเจรจากับรัฐบาลต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ใช้ระยะเวลานานกว่าจะแก้ปัญหาได้สำเร็จสุดท้ายภาพลักษณ์ของสภาฯอาจติดลบได้ เพราะรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ แต่ละขั้วการเมืองอาจใช้เวทีสภาฯเล่นเกมและแย่งชิงความได้เปรียบทางการเมือง นายสุชาติ บอกว่า มองอย่างงั้นก็ได้แต่การประชุมสภาฯและการต่อรองทางการเมืองของแต่ละพรรคเป็นคนละส่วนกัน เพราะการประชุมเดินตามระเบียบข้อบังคับ แต่เมื่อจะโหวตลงมติ หากเป็นห่วงว่าจะมี ส.ส.โหวตสวนหรือไม่ เป็นเรื่องของพรรคการเมืองไปเจรจากันญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็อาจเป็นชนวนก่อให้เกิดความขัดแย้งในรัฐสภา ภาพลักษณ์ของรัฐสภาอาจติดลบได้ ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติได้เชิญรองประธานสภาฯหารือรับมือเรื่องนี้อย่างไร เพราะจะต้องมีการเสนอญัตติแก้ไขแน่ นายสุชาติ บอกว่า ยังไม่ได้หารือถึงเรื่องนี้(กรอบการเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมีจุดเริ่มต้นจาก 1.คณะรัฐมนตรี2.ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของ ส.ส.ที่มีอยู่3.ส.ส.และ ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกสองสภาเท่าที่มีอยู่และ 4.ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 5 หมื่นแต่เงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยาก เพราะการลงมติในวาระ 1 ขั้นรับหลักการ ต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมี ส.ว.เห็นด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ คือ 84 เสียงจาก 250 เสียงปิดประตูได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ที่มาจากการเลือกโดย คสช.)ความเห็นส่วนตัวรู้ว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาหลายประเด็นต้องแก้ไข ก็ควรสังคายนาในประเด็นที่ไม่ชัดเจน เช่น กรอบเวลาตั้งรัฐบาลควรมีหรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็ทำให้รัฐบาลชุดเดิมอยู่ต่อไปเรื่อยๆดูเงื่อนไขแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วในวาระ 1 ต้องใช้จำนวน ส.ว.เห็นด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่คือ 84 เสียงจาก 250 เสียง อาจเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสุชาติ บอกว่า ส.ว.มีวุฒิภาวะ เขาก็คงเห็นปัญหาเหมือน ส.ส.ถึงวันนั้นถ้าชี้ให้เห็นถึงปัญหาจริง ผมว่าเขาก็ต้องเห็นด้วย บางประเด็นเขาอาจจะไม่เห็นด้วย ก็ต้องวิจารณ์ในภาพรวมว่า ประเด็นนี้แก้ไขแล้วเกิดประโยชน์หรือสร้างความวุ่นวายหรือไม่ ฉะนั้นอย่าเพิ่งไปปรามาส ส.ว.ผ่านประสบการณ์เป็นรองประธานสภาฯมา 2 สมัย ตั้งใจทำหน้าที่เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์สภาฯอย่างไร นายสุชาติ บอกว่า กว่า 10 ปีที่ผ่านมาและช่วงปฏิวัติ 5 ปี สังคมมองภาพลักษณ์สภาฯและนักการเมืองรุ่นเก่า ไม่มีคุณภาพและแก่งแย่งหาผลประโยชน์โจทย์นี้ทุกพรรคการเมืองรู้ดีว่า ต้องสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ มีคุณภาพและไม่โกงกินเป็นภาพที่ประชาชนคาดหวัง อยากเห็นนักการเมืองมีคุณภาพ อภิปรายมีสาระเชื่อว่าในสภาฯมีนักการเมืองรุ่นใหม่เยอะ มีความกระตือรือร้น คงเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นสังคมคาดหวังบทบาทของสภาฯทำการเมืองสร้างสรรค์ นายสุชาติบอกว่า ใช่ เพราะภาพที่สังคมมองนักการเมือง ซึ่งเอาแต่แก่งแย่งชิงผลประโยชน์ เป็นต้นเหตุหนึ่งของการถูกปฏิวัติก็อยากเห็นนักการเมืองรุ่นใหม่ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศถ้านักการเมืองรุ่นใหม่ลุกขึ้นอภิปรายระหว่างผมทำหน้าที่ประธาน ก็จะให้โอกาสเต็มที่ไม่ต้องห่วงว่าผมมาจากพรรคพลังประชารัฐแล้วทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง สมัยอยู่พรรคไทยรักไทยเคยเป็นรองประธานสภาฯ ก็เปิดโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายเปิดโปงรัฐบาลในสมัยนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ มีเนื้อหาสาระ ไม่พูดเสียดสีฉะนั้นความเป็นกลางไม่ต้องห่วง อยากให้ ส.ส.ทุกคนอภิปรายมีสาระเพื่อยกระดับคุณภาพของสภาฯให้กลับสู่มาตรฐานอย่าให้ใครมากล่าวหาสภาฯว่าเป็นตัวทำให้บ้านเมืองวุ่นวายและเป็นต้นเหตุของการปฏิวัติอีก.ทีมการเมือง