หนึ่งในอนุสาวรีย์หินเก่าแก่ยุคก่อนประวัติศาสตร์และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากแห่งหนึ่งของโลก หลายคนคงนึกถึง “สโตนเฮนจ์” (Stonehenge) ที่มีแท่งหินยักษ์ 112 ก้อนวางเรียงเป็นแนววงกลม ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ซ้อนทับกันเป็นปริศนากลางทุ่งราบซอลส์บรี ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษแม้นักวิทยาศาสตร์จะใช้วิธีหาอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสีของหินแต่ละก้อน แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ว่าใครสร้างและการลำเลียงมาวางบนทุ่งกว้างแห่งนี้ด้วยจุดประสงค์ใด กลายเป็นปริศนาที่ท้าทายให้นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดีพยายามค้นหาคำตอบมาอย่างยาวนานล่าสุด มีรายงานว่าชิ้นส่วนหินที่มีลักษณะเป็นแกนยาวคล้ายด้ามไม้กวาดของกองหินยักษ์สโตนเฮนจ์ ซึ่งชิ้นส่วนดังกล่าวถูกนำออกไปจากพื้นที่การขุดค้นทางโบราณคดีเมื่อปี พ.ศ.2501 ได้ถูกส่งกลับคืนให้แก่องค์การอนุรักษ์แห่งอังกฤษ (English Heritage) เมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว แต่ที่ไม่ผลีผลามประกาศออกมาในตอนนั้น ก็เพราะต้องศึกษาที่มาและเข้าใจความสำคัญของชิ้นส่วนนี้ก่อน“ชิ้นส่วนแกน” ถูกส่งคืนโดยลูกชายของ โรเบิร์ต ฟิลลิป ชายชราชาวอังกฤษ อดีตพนักงานของบริษัทเจียระไนเพชร ปัจจุบันพำนักอยู่ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา นายฟิลลิปเคยมีส่วนร่วม งานบูรณะสโตนเฮนจ์เมื่อ 60 ปีก่อน และได้ชิ้นส่วนแกนมาเป็นที่ระลึกจากการซ่อมแซมหินทรายซาร์เซน (sarsen) ที่ก่อเป็นรูปไตรลิธอน 5 กลุ่ม (Trilithon) ที่ประกอบด้วยหิน 2 แท่งตั้งคู่ มีหินแท่งที่ 3 วางนอนพาดเป็นคานด้านบน โดยหินชิ้นที่ 3 ได้ร่วงหล่นลงมา และในเวลานั้นคนงานได้เจาะรูหินเป็นวงกลม ทำให้ได้ชิ้นส่วนรูปทรงกระบอกยาว 3 ชิ้น ขนาดชิ้นละประมาณ 3 เมตรคุณตาวัย 89 ได้ตัดสินใจคืนชิ้นส่วนของหินที่เก็บไว้นานถึง 6 ทศวรรษ ด้วยหวังว่าจะเป็นจิ๊กซอว์อีกชิ้นที่จะช่วยเฉลยแหล่งที่มาของกองหินโบราณ และเป็นการฉลองครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 90 ของตนด้านนักโบราณคดีอังกฤษหวังว่าชิ้นส่วนหินที่ได้คืนมาจะสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบของแกนกลางหิน เพื่อระบุว่าหินซาร์เซนโบราณมาจากไหน ซึ่งจะใช้เครื่องมือสเปกโตรมิเตอร์เพื่อดูองค์ประกอบทางเคมีของหินต่อไป แต่สิ่งที่พวกเขาคาดหวังในขณะนี้คือผู้ที่ครอบครองชิ้นส่วนแกนอีก 2 ชิ้นจะส่งคืนกลับมาในเร็ววัน.ภัค เศารยะ