ตั้งแต่วันที่ 7–14 พฤษภาคม เจ้าของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์รายใหญ่ คงโกลาหลกันน่าดู เมื่อประกาศใหม่ของกรมสรรพากรที่ออกมาเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 4 เมษายน ให้ธนาคารส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ไปให้กรมสรรพากรตรวจสอบทุกบัญชี โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของบัญชี เพื่อตรวจสอบการเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 20,000 บาทต่อปี ประกาศฉบับนี้ อธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ฝากเงินรายย่อยส่วนใหญ่ จะได้ไม่ต้องไปแจ้งข้อมูลที่ธนาคาร ส่วน ผู้ที่ไม่ประสงค์ให้ธนาคารส่งข้อมูล จะต้องไปกรอกแบบฟอร์มแจ้งกับธนาคารด้วยตัวเองผู้ที่ไม่ยินยอมให้ส่งข้อมูล จะถูกเก็บภาษีดอกเบี้ยตั้งแต่บาทแรก กรมสรรพากรจะใช้ข้อมูลจาก ภ.ง.ด.2 ที่ธนาคารส่งให้กรมเพื่อประเมินภาษีคุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ให้เหตุผลที่ออกประกาศฉบับนี้ว่า ที่ผ่านมามีธนาคารบางแห่งและลูกค้าไม่รู้ว่าต้องเสียภาษี จึงมีการเลี่ยงภาษี ประกาศนี้จะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับธนาคารและผู้ที่ทำถูกต้อง เป็นการช่วยลูกค้าที่ได้รับดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต่อปี จะได้ไม่ลืมหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เพราะถ้าเอาดอกเบี้ยไปรวมกับภาษีที่ต้องเสียในแต่ละปี บางคนมีฐานภาษีอยู่ที่ 20% บางคนมีฐานภาษีอยู่ที่ 30% การหักภาษี ณ ที่จ่ายเสียแค่ 15% น้อยกว่าการนำไปเสียภาษีรวมคุณเอกนิติ บอกว่า ได้กำหนดให้ธนาคารเริ่มส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรครั้งแรกในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ กรมสรรพากรจะนำข้อมูลเฉพาะดอกเบี้ยไปประเมินว่า ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยหรือไม่ แล้วแจ้งกลับไปที่ธนาคารขั้นตอนก็ไม่มีอะไรซับซ้อน กรมสรรพากรให้ธนาคารส่งบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าทุกบัญชีไปให้กรมสรรพากรทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากรจะนำข้อมูลไปประมวลผลในซอฟต์แวร์ใหม่ เช่น คนชื่อนายเอก มีบัญชีออมทรัพย์อยู่กี่บัญชี กี่ธนาคาร เมื่อรวมดอกเบี้ยเงินฝากแล้วเกิน 20,000 ต่อปีที่กรมสรรพากรยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยหรือไม่ แล้วกรมสรรพากรก็จะส่งข้อมูลกลับไปให้ธนาคาร เพื่อหักภาษีดอกเบี้ย ณ ที่จ่าย 15% ให้ถูกต้องส่วนเจ้าของบัญชีที่ไม่ประสงค์ให้ส่งข้อมูล ต้องไปแจ้งกับธนาคารเป็นลายลักษณ์อักษรคุณชุลีพร น่วมทนง รองเลขาธิการ สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในธนาคารพาณิชย์มีมากกว่า 80 ล้านบัญชี มีผู้ฝากรายย่อยที่ได้ดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี เกือบ 99% เหลือกลุ่มที่ต้องเซ็นยินยอมกับแบงก์เพื่อส่งข้อมูลเพียง 1% เท่านั้น ประมาณ 3 ล้านคนที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี เพราะมีรายได้ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เกิน 20,000 บาทต่อปี คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีบัญชีเงินฝากเกิน 3 บัญชี รวมกว่า 30 ล้านบัญชี กระจายอยู่ในหลายธนาคารคุณปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ลูกค้าที่ไม่ต้องการให้ส่งข้อมูลเงินฝากไปให้กรมสรรพากร ไม่ต้องการรับสิทธิยกเว้นภาษีดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี ต้องไปกรอกแบบฟอร์มเพื่อให้ธนาคารแจ้งต่อกรมสรรพากร ระหว่างวันที่ 7-14 พฤษภาคม การกรอกแบบฟอร์มดังกล่าว ต้องทำทุกธนาคารที่มีบัญชีอยู่ แจ้งครั้งเดียวจะมีผลตลอดไปงานนี้ต้องชม คุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นดีลที่สุดยอดมาก ไม่มีทางเลี่ยง เพราะไม่ว่าเจ้าของบัญชีจะยินยอมหรือไม่ยินยอม บัญชีเงินฝากก็ต้องถูกส่งไปให้กรมสรรพากรอยู่ดี เพื่อนำบัญชีเงินฝากกว่า 88 ล้านบัญชีทั้งประเทศ เข้าไปอยู่ในระบบภาษีของกรมสรรพากร ใครไม่อยากให้ธนาคารส่งข้อมูล ก็ต้องไปกรอกแบบฟอร์มแจ้งต่อธนาคารเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วธนาคารก็ส่งข้อมูลไปให้กรมสรรพากรอีกต่อ เพื่อแจ้งให้ทราบว่านายคนนี้ไม่ต้องการส่งข้อมูล ในที่สุดอาจจะต้องส่งข้อมูลมากกว่าบัญชีเงินฝากก็ได้ ถ้าสรรพากรไปตรวจสอบภาษีย้อนหลัง.“ลม เปลี่ยนทิศ”