องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคหัวใจและหลอดเลือด คือ กลุ่มโรคที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ ต้นๆของคนทั่วโลก ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงมาจากหลายสาเหตุ เช่น สูบบุหรี่ โรคอ้วน ไม่ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีไขมันมาก รวมทั้งความเครียด ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้แต่ล่าสุด มีงานวิจัยจากหลากหลายสถาบัน เปิดเผยถึงปัจจัยบางอย่างที่อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆซึ่งหลายคนมองข้าม ว่า เป็นปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้เกิดภาวะการเกิดโรคหัวใจวายได้อย่างแรกเลย...การเกลียดหัวหน้างาน หรือเจ้านาย อันนี้ไม่ใช่เรื่องขำๆ งานวิจัยจากสวีเดนที่ทำการศึกษาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ British Medical Journal ระบุว่า การมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับหัวหน้างาน หรือเจ้านาย อาจเพิ่มโอกาสการเกิดภาวะหัวใจวายได้ถึง 40%นพ.วีเจย์ กุมาร ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจจากสถาบันสุขภาพหัวใจในเมืองออร์ลันโด สหรัฐอเมริกา บอกว่า ความเครียดในที่ทำงานเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจวายได้ ยิ่งถ้ามีปัจจัยอื่น เช่น การนอนหลับไม่เพียงพอ การทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจมากขึ้นไปอีก อีกปัจจัยหนึ่ง...คือ การเจอกับเหตุการณ์ที่สร้างบาดแผลในจิตใจ เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรงกะทันหัน อาจส่งผลกระตุ้นภาวะการเกิดหัวใจวาย ข้อมูลจาก สมาคมวัยหมดประจำเดือนแห่งอเมริกา ระบุว่า เส้นเลือดของผู้หญิงที่เคยผ่านประสบการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง 3 ครั้งในชีวิตหรือมากกว่านั้น มีประสิทธิภาพการทำงานที่ย่ำแย่กว่าผู้หญิงที่ไม่เคยประสบเหตุการณ์แบบเดียวกันพญ.แจ็คกี ยูบานี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ บอกว่า ภาวะความเครียดหรือการกระทบกระเทือนจากเหตุการณ์บางอย่าง สามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอะดรีนาลินมากผิดปกติ โดยอะดรีนาลินจะไปเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและเพิ่มภาวะความดันโลหิตสูง ที่มีผลต่อการเกิดหัวใจวายได้งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน วารสารการแพทย์ British Medical Journal ระบุว่า ความรู้สึกเหงา ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการเกิดหัวใจวาย มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า คนที่มีความสัมพันธ์ทางสังคมน้อยมีโอกาสเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น 29% และมีโอกาสเกิดภาวะหัวใจวายเพิ่มขึ้น 32% ที่เป็นเช่นนี้เพราะความรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายสามารถกระตุ้นให้เกิดความเครียดและคนที่รู้สึกเหงามักไม่ค่อยมีใครคอยปรับทุกข์หรือระบายความรู้สึกต่างๆ สอดคล้องกับงานวิจัยของ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งทำการวิเคราะห์ผู้หญิงกว่า 700,000 คนในช่วงเวลา 8 ปี และพบว่าคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับ คู่รักมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดน้อยลง 28% เมื่อเทียบกับผู้หญิงโสดที่ใช้ชีวิตตามลำพังโรคซึมเศร้า...เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการเกิดภาวะหัวใจวาย ข้อมูลจาก สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา ระบุว่า 33% ของผู้ป่วยที่เกิดภาวะหัวใจวายในสหรัฐอเมริกา อาจเป็นผู้ที่มีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย ดร.นีกา โกลด์เบิร์ก ผู้อำนวยการศูนย์โจน เอช ทิช เพื่อสุขภาพสตรี ในนครนิวยอร์ก บอกว่า ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามักไม่สามารถควบคุมตัวเองให้มีพฤติกรรมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพได้ เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หรือแม้แต่การจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ และว่าคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายมักหันไปหาสิ่งที่ช่วยทำให้ตนเองสบายใจ โดยไม่ได้คำนึงถึงว่ามันจะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพหรือไม่วัยทอง...งานวิจัยจำนวนมากระบุตรงกันว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะหัวใจวายเมื่อเข้าสู่วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือนมากขึ้น โดยการเกิดหัวใจวายในวัยทองอาจสัมพันธ์กับภาวะพร่องฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย นอกจากนี้ ยังพบว่าอายุที่มากขึ้นทำให้หลอดเลือดแข็งขึ้น มีความยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้ไปเพิ่มระดับความดันในหลอดเลือด ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดและภาวะหัวใจวายล่าสุด...งานวิจัยจาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซูริก ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ European Heart Journal ระบุว่า หัวใจของคนเราอาจได้รับความกระทบกระเทือนจนเป็นอันตรายถึงชีวิต จากภาวะตึงเครียดทางอารมณ์ที่เป็นผลมาจากการมีอารมณ์โกรธ เศร้า และหวาดกลัวอย่างรุนแรง โดยอารมณ์ดังกล่าวยับยั้งไม่ให้สมอง 4 ส่วนสื่อสารกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลต่ออาการทางหัวใจที่พบได้ยากที่เรียกว่า กลุ่มอาการทาโกะสึโบะ (Takotsubo syndrome) หรือ โรคหัวใจสลาย โดยอาการดังกล่าวทำให้หัวใจบางส่วนเปลี่ยนรูปทรงจนดูคล้ายกับไหดินเผาที่คนญี่ปุ่นใช้ดักหมึกยักษ์ อาการนี้ อาจทำให้หัวใจวาย และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ระบุว่า 3 ใน 4 ของผู้ที่มีอาการ โรคหัวใจสลาย มักมีสาเหตุมาจากความเครียด ส่งผลให้หัวใจห้องล่างซ้ายทำงานผิดปกติ เกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอกและหายใจลำบาก แม้จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่ในรายที่มีอาการรุนแรงก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ผลการศึกษายังพบว่า ผู้ป่วย 1 ใน 20 รายที่มีอาการทาโกะสึโบะ มีสาเหตุมาจากอารมณ์ดีใจสุดๆ โดยทีมนักวิจัยได้ศึกษาคนไข้ 1,750 คน พบว่า ความผิดปกติของหัวใจเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความสุข เช่น งานวันเกิด งานแต่งงานของลูกชาย ได้พบเพื่อนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมา 50 ปี ได้เป็นคุณยาย รักบี้ทีมโปรดชนะการแข่งขัน ถูกรางวัลแจ็กพอตกาสิโน หรือทราบผลซีทีสแกนว่าไม่ได้ป่วยเป็นโรคที่ไปตรวจนอกจากนี้ยังพบว่า ผู้มีอาการ ทาโกะสึโบะ ส่วนใหญ่เป็นสตรีวัยหมดประจำเดือน ดร.เยเลนา กาดรี หนึ่งในทีมนักวิจัย บอกว่า ผลการศึกษาครั้งนี้บ่งชี้ว่า ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการนี้มาจากอารมณ์เชิงบวกด้วย ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับอารมณ์เชิงลบเพียงอย่างเดียว.อ่านเรื่องน่ารู้สาระดีๆ อัปเดตสำหรับผู้ใหญ่ได้ที่ : ไลฟ์สไตล์ 45+