ว่ากันว่า คนเรามักยินดีเจ็บตัวอยู่ 2 อย่าง คือ เจ็บแล้วหล่อ/สวย กับเจ็บแล้วเสียวส่วนคนที่ชอบสรรหาของอร่อยกินไม่ขาดปาก มักจะถือคติประจำใจว่า เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องตายเรื่องกลาง...ยังมีอีก 4 หนทางให้พวกเค้าได้เลือกว่า อยากเข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มไหน?ระหว่าง...กลุ่มแรก กินแบบคุมอาหาร แต่ไม่ยอมออกกำลังกาย=พวกกำลังลดน้ำหนัก กลุ่มที่สอง ไม่คุมอาหาร แต่ยอมออกกำลังกาย =หมูที่แข็งแรง กลุ่มที่สาม ทั้งคุมอาหารและออกกำลังกาย=พวกหุ่นดีส่วนกลุ่มสุดท้าย ซึ่งดูเหมือนจะมีสมาชิกอยู่เพียบ คือ ผู้ที่ไม่คุมอาหาร และไม่ยอมออกกำลังกาย...กินลูกเดียว=ไอ้/อีอ้วน...ผู้น่ารักจะว่าไป ในโลกนี้มีของกินไม่กี่อย่างที่ดูแล้วไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่เพราะพรสวรรค์ของคนปรุง ดันทำออกมาได้...อร่อยเป็นบ้าอย่างไม่น่าเชื่อ!!! ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเมนู “ข้าวผัดเกลือ” รวมอยู่ด้วยใช่แล้วครับ...ท่านผู้อ่านไม่ได้ตาฝาด เมนูนี้มีส่วนผสมหลักอยู่ 2 อย่าง คือ ข้าวสวยกับเกลือ แต่ดันมีคนนำมารังสรรค์ให้เป็นเมนูเลิศรส ขายดีเป็นเทน้ำ ผู้ที่ทำเช่นนี้ได้ นอกจากมีพรสวรรค์ ยังหาตัวจับได้ยากวันก่อนช่วงใกล้เที่ยง “ชาย 1” ผ่านไปแถวซอยรามอินทรา 5 แยก 4 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน สะดุดตากับร้านอาหารแห่งหนึ่งชื่อ “ครัวกระแต” เห็นมีรถจอดอยู่เต็มหน้าร้าน นึกในใจ ร้านนี้คงต้องมีทีเด็ดอะไรสักอย่าง จึงตัดสินใจหักหัวรถเลี้ยวเข้าไปค้นหา ความจริง ตามสไตล์ “ไอ้อ้วนผู้น่ารัก!!” คริ คริกางเมนูออกมาเห็นชื่อ “ข้าวผัดเกลือ” สะดุดตา แถมโต๊ะข้างๆ ยังสั่งเมนูนี้มาทานกันแทบทุกโต๊ะ ในที่สุดก็ได้ลิ้มรส “ข้าวผัดเกลือ” จานแรกในชีวิตครับ คำแรกที่ตักเข้าปาก บอกได้เลยว่า...ไม่ผิดหวัง จึงถามหามือผัด ได้ความว่า ชื่อ ทัศนีย์ วรรณโรจน์ หรือ พี่กระแต เธอมิใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าของร้านนี้นั่นเอง กุลวดี บุญยัง และ ทัศนีย์ วรรณโรจน์ (พี่กระแต) 2 แม่ครัว.พี่แตเล่าถึงที่มาของเมนูนี้ว่า เธอเป็นคนแถววัดดงตาล ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี สมัยเด็กครอบครัวมีฐานะยากจน มีพี่น้องหลายคน แถมยังสูญเสียคุณพ่อไปตั้งแต่ตอนที่พวกเธอยังเล็ก แต่เธอก็มีย่าที่มีฝีมือในเรื่องทำอาหาร ดังระดับอำเภอ ชื่อ คุณย่าน้ำค้าง วรรณโรจน์ เวลาไปออกงานรับทำกับข้าวให้เจ้าภาพตามวัด หรือตามบ้าน ย่ามักจะให้เธอติดสอยห้อยตามไปเป็นลูกมือช่วยทำกับข้าวด้วยเสมอพี่แตเล่าว่า ค่ำวันหนึ่งน้องชายของเธอกลับจากเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ไปเยี่ยมบ้านที่ อ.สองพี่น้อง เขาหิวโซ แต่วันนั้นทุกคนในบ้านกินข้าวเย็นหมดแล้ว จึงไม่เหลืออะไรให้กิน ด้วยความสงสารน้อง พี่แตจึงเข้าครัวสำรวจวัตถุดิบ...มีแต่ข้าวสวยเหลืออยู่ในหม้อ กับเกลือ พริกไทย และกระเทียม นี่คือที่มาของเมนูยามยาก...“มันเป็นเมนูที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ” เธอว่า แต่ผลลัพธ์เกินคาด เพราะน้องชายเธอฟาดจนเกลี้ยงปัจจุบันเธอนำเมนูนี้มาปรุงให้ลูกค้าที่ร้านทาน ลูกค้าส่วนใหญ่ติดใจและชอบสั่งมาเบิ้ลอีกจานเสมอ พี่แตเผยเทคนิคการปรุงว่า เริ่มจากเธอใช้ ข้าวหอมมะลิ 100% มาหุงให้เมล็ดสวย นำข้าว 4 ทัพพีไปซุยหรือยีให้เรียงเมล็ด ไม่จับตัวเป็นก้อน แล้วใส่ น้ำมันพืช เล็กน้อย ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน นำ กระเทียม กลีบเล็กที่สับแล้วไม่กี่กลีบลงไปเจียวในกระทะ พอให้ออกสีเหลือง และส่งกลิ่นหอม ข้าวผัดเกลือเมนูดังและขายดีสุดของร้าน.จากนั้นนำข้าวสวยลงไปผัด ปรุงรสด้วย เกลือป่น กับ พริกไทยป่น อย่างละ ½ ช้อนชา พอเห็นว่าได้รสชาติถูกใจดีแล้ว ให้เร่งไฟแรงจัด... เพื่อให้กลิ่นกระทะหอมตลบลอยขึ้นมา เท่านี้ก็ได้เมนูข้าวผัดเกลือ ที่ทั้งง่ายและแสนอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ...ใครจะลองนำไปทำทานดูบ้าง พี่แตบอกว่าเธอไม่สงวนลิขสิทธิ์ ปลาม้าทอดกระเทียมกรอบนอกนุ่มใน. แกงป่าลูกชิ้นปลาฉลาดแท้หาทานยาก.ในร้านนี้นอกจากจะมี “ข้าวผัดเกลือ” เป็นเมนูนางกวัก เรียกลูกค้าเข้าร้านจนแน่น ยังมีอีกหลายเมนูเด็ด ไม่ว่าจะเป็น กุ้งก้ามกรามทอดเกลือ ปลากะพงผัดใบยี่หร่า ปลาม้าทอดกระเทียม แกงป่าลูกชิ้นปลาฉลาด แกงส้มมะรุม แกงขี้เหล็กหมูย่าง แกงเหลืองหน่อไม้เปรี้ยวปลากะพง หรือแม้แต่ ไข่เค็มต้ม/ดาว ที่ทางร้านทำเอง (อร่อยมาก ไม่เค็มจัด) แต่ละเมนูที่ว่ามา บอกได้เลยครับว่า ไม่ไปลองแล้วต้องเสียใจ ปลากะพงผัดใบยี่หร่าอีกเมนูดังขายดี.อย่าง “กุ้งก้ามกรามทอดเกลือ” ซึ่งเป็นอีกเมนูที่ผู้ไปเยือนร้านนี้ไม่ควรพลาด ทางร้านเจาะจงใช้แต่ “กุ้งก้ามทอง” (ก้ามเล็ก เนื้อเยอะ ไม่มีไข่) ไม่ใช้ “กุ้งจิ๊กโก๋” (ก้ามใหญ่ เนื้อน้อย เปลือกหนา) เหมือนที่ร้านส่วนใหญ่ใช้กัน โดยนำเอากุ้งมาแกะเปลือก ผ่าหลัง นำถุงขี้ และฟัน 2 ซี่ ที่หัวกุ้งออก ทำความสะอาดอย่างดี เพื่อว่าเวลาเคี้ยวหัวกุ้ง จะได้ไม่ต้องกังวลโดนส่วนที่คมบนหัวกุ้งแทงเหงือก หรือทิ่มเพดานปาก กุ้งก้ามกรามทอดเกลือเมนูดังของทางร้าน.พี่แตตั้งกระทะด้วยไฟแรง แล้วเท น้ำมันพืช ลงไป 1 ทัพพี เมื่อกระทะร้อนดีแล้ว เธอหย่อน กุ้ง ลงไป 4 ตัว จากนั้นเบาไฟลงมาใช้ไฟกลาง เอาฝาหม้อครอบกระทะไว้ เพื่อให้ความร้อนกระจายตัวอย่างทั่วถึง ราว 5 นาที เมื่อกุ้งเริ่มสุก เธอจะปรุงรสด้วย เกลือ กับ พริกไทย อย่างละปลายช้อนชา เหยาะ น้ำมันหอย (ช่วยให้กลมกล่อม) และ ซีอิ๊วขาว (เพิ่มกลิ่นหอม) อีก อย่างละปลายช้อนชาแอ่น...แอ๊น... เท่านี้ก็ได้อีกเมนูเด็ด “กุ้งก้ามกรามทอดเกลือ” ที่ทั้งหอม มัน เค็มปะแล่ม และกลมกล่อม อร่อยอย่าบอกใครเชียว ร้านนี้เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้ง แต่เวลา 11.00-22.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ และมีบริการจัดส่งอาหารทาง Line Man กับ GRAB BIKE สอบถาม ได้ที่หมายเลข 08-6992-9214, 08-1345-3627 และ 0-2070-0207“คุณชาย 1” ขอเชื้อเชิญให้ไปลองพิสูจน์กันดู เดี๋ยวจะหาว่าไอ้อ้วน (ผู้น่ารัก) คนนี้ใจร้าย มีของดีแล้วไม่บอกต่อ.คุณชาย 1
