“รายงานวันจันทร์”-อุโมงค์ทับลานเชื่อมเขาใหญ่-คมนาคมคู่อนุรักษ์เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา กรมทางหลวงจัดพิธีเปิดใช้โครงการทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.กบินทร์บุรี–อ.ปักธงชัย ซึ่งเป็นต้นแบบทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลกแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อพัฒนาเชื่อมโครงข่ายทางหลวงคมนาคม เคียงคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนทางเชื่อมนี้มีที่มาและรูปแบบอย่างไรบ้าง อธิบดีกรมทางหลวง อานนท์ เหลืองบริบูรณ์ จะชี้แจงรายละเอียดให้ “รายงานวันจันทร์” วันนี้--------------------ถาม-ที่มาของโครงการเป็นมาอย่างไรอานนท์-ทางหลวงหมายเลข 304 เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นเส้นทางสายหลักที่รองรับการขนส่งสินค้าจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่ท่าเรือแหลมฉบังและนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก กรมทางหลวงจึงได้ขยายถนนจากเดิมขนาด 2 ช่องเพิ่มเป็น 4 ช่องจราจร ยกเว้นในช่วงที่ตัดผ่านพื้นที่รอยต่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่ากลุ่มใหญ่ของกลุ่มป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ ที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ วันที่ 14 ก.ค.2548 โดยคณะกรรมการมรดกโลกมีข้อเสนอแนะให้ประเทศไทยจัดทำแนวเชื่อมต่อ (Wildlife Corridor) เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและป้องกันสัตว์ป่าไม่ให้ได้รับอันตรายจากถูกรถชนปี 2552 กรมทางหลวงได้สำรวจออกแบบ จัดทำรายละเอียดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลกบนทางหลวงหมายเลข 304 และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในปี 2557ถาม-รูปแบบโครงการมีจุดเด่นต่างจากโครงการอื่นๆอย่างไรอานนท์–หลังจากได้รับความเห็นชอบแล้วกรมทางหลวงจึงได้ดำเนินการก่อสร้าง โดยคำนึงถึงผล กระทบที่อาจมีผลต่อ ระบบนิเวศของผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน ทั้งในช่วงก่อสร้างและดำเนินการโดยเฉพาะทรัพยากรสัตว์ป่าด้วย การสำรวจโดยตรง ควบคู่กับการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพ หรือ Camera Trap เพื่อเป็นฐานข้อมูลในสภาพปัจจุบัน และคาดการณ์สัตว์ป่าที่จะเข้ามาในพื้นที่ในอนาคตรูปแบบทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.กบินทร์บุรี-อ.ปักธงชัย ประกอบด้วยถนนระดับดิน 4 ช่วง โครงสร้างทางยกระดับ 1 ช่วง และโครงสร้างอุโมงค์ทางหลวงชนิดดินตัดแล้วถมกลับ (Wildlife Overpass) 2 ช่วง รวม 7 ช่วง ทั้งนี้ในช่วงทางยกระดับ (Wildlife Underpass) สูง 9-13 เมตร ระยะทาง 570 เมตร บนโครงสร้างยกระดับมีการติดตั้งกำแพงกันเสียง เพื่อลดผลกระทบจากรถที่สัญจรที่อาจส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าที่ใช้เส้นทางด้านล่างของทางยกระดับ เช่น กระทิง เก้ง กวางป่านอกจากนี้ ในช่วงที่ 3 ถนนระดับดิน ระยะทาง 1,005 เมตร ซึ่งถนนช่วงนี้กรมทางหลวงได้ออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดสัตว์ลอด สำหรับสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หรือ Amphibian Tunnel จำนวน 3 แห่ง และอุโมงค์ทางลอด สำหรับสัตว์ขนาดเล็ก หรือ Small Animal Underpass เพื่อให้สัตว์ดังกล่าวสามารถลอดไปมาได้ระหว่างอุทยานแห่งชาติทั้งสองแห่ง ซึ่งภายหลังก่อสร้างอุโมงค์ทั้ง 2 จุดแล้วเสร็จ ได้จัดสภาพภูมิทัศน์ให้มีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทั้งสองฝั่งทางโดยปลูกต้นไม้เน้นไม้พุ่มขนาดเล็ก และไม้ต้นขนาดเล็กรวมถึงพืชอาหารสัตว์ พร้อมทั้งการสร้างโป่งเทียม แหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้สัตว์ป่าเคลื่อนย้ายเข้าสู่แนวเชื่อมผืนป่าและสร้างความสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศโดยรอบถาม...ก่อนและหลังการก่อสร้าง ส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าอย่างไรอานนท์-จากผลการติดตามช่วงก่อสร้างที่ผ่านมา พบว่าในพื้นที่โครงการและใกล้เคียงพบสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เช่น บริเวณทางยกระดับฝั่งเขาใหญ่ พบ เก้ง กวางป่า อีเห็นข้างลาย ฝั่งทับลาน พบ สุนัขจิ้งจอก แมวดาว เม่นใหญ่ หมูป่า กวางป่า บริเวณอุโมงค์ทางหลวงฝั่งเขาใหญ่พบสัตว์ป่าขนาดเล็ก เช่น พังพอน ชะมดแผงหางปล้อง อีเห็นข้างลาย ฝั่งทับลานพบสัตว์ป่าขนาดใหญ่ เช่น เลียงผา กระทิง กวางป่า เสือโคร่งเมื่อวิเคราะห์โอกาสการพบสัตว์ป่าด้วยโปรแกรม MaxEnt พบว่าบริเวณโครงสร้างทางยกระดับจะมีโอกาสพบ กวางป่า เก้ง ชะมดเช็ด เม่น กระทิง ขณะที่บริเวณอุโมงค์ มีโอกาสพบ เลียงผา กวางป่า หมีหมา สุนัขจิ้งจอก กระทิง ทั้งนี้ ระหว่างก่อสร้างพบรอยเท้าสัตว์ป่าหลายชนิดใกล้พื้นที่อุโมงค์ทางหลวง คาดว่ามาสำรวจเส้นทางที่ข้ามถนน และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ พบว่าบริเวณหลังคาอุโมงค์ทางหลวง มีรอยเท้าของสัตว์ป่าเดินข้ามไปมาระหว่างทั้งสองผืนป่าระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ดังนั้นผลจากการก่อสร้างและปรับภูมิทัศน์เลียนแบบธรรมชาติแบบเดิม ควบคู่ไปกับการสร้างบ่อน้ำ โป่งเทียม และปลูกพืชอาหารสัตว์ ส่งผลให้สภาพนิเวศวิทยาทั้งสองฝั่งทางไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม นับเป็นต้นแบบทางเชื่อมผืนป่าแห่งแรกของประเทศไทย.